น้ำถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิต พืชก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต้องอาศัยน้ำในการเจริญเติบโต….ต่อให้มีฝีมือเก่งกาจขนาดไหนในการปลูกพืช….แต่ถ้าพื้นที่นั้นๆ ไม่เอื้ออำนวยในเรื่อง “แหล่งน้ำ” การเพาะปลูกหรืออาชีพเกษตรกรรมก็ดำเนินไปด้วยความยากลำบากอย่างแน่นอน
อุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงเดือนเมษายนอาจทำให้พืชหลายชนิดที่สูญเสียน้ำมากๆ อย่างผักสวนครัวรั้วกินได้อาจจะมีอาการใบเหี่ยวเฉาคล้ายโดนน้ำร้อนลวก ที่เป็นดังนี้สาเหตุส่วนหนึ่งก็มากจากการที่สูญเสียน้ำไปมาก และส่วนใหญ่เป็นพืชอวบน้ำทำให้มีการปิดปากใบเพื่อลดการสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้น และส่งผลให้เกิดอาการเหี่ยวตามมา….แต่ก็เป็นการเหี่ยวชั่วคราว พอถึงช่วงที่อากาศเย็นตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเช้า….เซลล์ของพืชผักเหล่านี้ก็จะกลับมาเต่งตึงได้ตามสภาพที่น้ำจะเสริมเพิ่มเติมมาในช่วงการให้น้ำของเย็นวาน
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามอากาศที่ร้อนจัดนี้ก็ทำให้พืชมีอาการ “ช๊อค” หรือ “ชะงัก” ทำให้เกิดผลกระทบต่อการเจริญเติบโตรวมถึงการผสมเกสร ทำให้การผสมเกสรหรือการติดดอกออกผลทำได้ไม่สมบูรณ์…ก่อให้เกิดปัญหาดอกและผลร่วงตามมาในภายหลัง
การช่วยเหลือพืชผักสวนครัวเหล่านี้ให้มีความยั่งยืนไม่ต้องกระทบกับการ ช๊อคหรือชะงัก จากการสูญเสียน้ำมากเกินไปก็สามารถทำได้ด้วยการใช้ เศษหญ้า ฟาง นำมาคลุมดินเพื่อกักเก็บรักษาความชื้น หรืออาจจะใช้ตัวช่วยอย่างการใช้ “สารอุ้มน้ำโพลิเมอร์ (polymer)” นำไปหว่านกระจายให้ทั่วแปลง หรือใช้รองก้นหลุมตั้งแต่เริ่มปลูก หรือนำไปกลบฝังไว้ข้างๆ ลำต้นพืชผักชนิดนั้น ก็จะช่วยทำให้พืชผักสวนครัวเหล่านั้นได้รับน้ำอย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ทำให้การเจริญเติบโตของพืชเหล่านั้นเป็นไปอย่างปรกติและต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจากพืชที่ปลูกบนดินธรรมดาและสูญเสียน้ำได้ง่าย
เกษตรกรสามารถนำสารอุ้มน้ำ “โพลิเมอร์ Polymer” ในอัตรา 1 กิโลกรัม นำไปผสมน้ำในถัง 200 ลิตรทิ้งไว้สองสามชั่วโมงหรือทิ้งไว้เป็นคืนๆก็ได้ ยิ่งทำให้การดูดน้ำทำได้เต็มที่ยิ่งขึ้น ก็จะได้วุ้นใสๆ หรือลักษณะคล้ายเยลลี่ นิ่มพองขยายตัวประมาณ 200 เท่านำมาใช้รองก้นหลุมปลูก หรือหว่านบนแปลงพืชผักสวนครัว แล้วใช้หญ้าหรือฟางคลุมทับอีกครั้งหนึ่ง ก็จะทำให้พืชที่เกษตรกรเพาะปลูกนั้น ได้รับน้ำอย่างต่อเนื่อง
สารอุ้มน้ำ “โพลิเมอร์” นี้สามารถนำไปใช้ได้กับพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น สักทอง กฤษณา เงาะ ลองกอง มังคุด ทุเรียน พริก มะละกอ ฯลฯ จะช่วยทำให้พืชต่างๆ เหล่านี้สามารถที่จะมีน้ำหรือความชื้นช่วยผสมเกสรได้ดี ทำให้ลดการหลุดร่วงของดอกผล ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพิ่มรายได้โดยที่ต้นทุนก็ไม่สูงมากเกินความจำเป็น
