เฝ้าระวังหนอนทรายระบาด

หนอนทรายนั้นเป็นตัวอ่อนของด้วงปีกแข็งที่ชื่อว่าด้วงกว่าง เป็นหนอนที่มีขนาดใหญ่ ลำตัวอ้วนป้อมมีกรามใหญ่ แข็งแรง ลำตัวนั้นมีสีขาวหรือสีครีม เคลื่นที่โดยการหดและยืดลำตัว บริเวณท้องจะมีขนและหนามเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่ใช้แยกชนิดของหนอนทรายวงจรชีวิตของด้วงชนิดนี้ตั้งแต่เกิดจนถึงระยะขยายพันธ์รวมทั้งสิ้น 1 ปี โดยตัวเมียนั้นจะวางไข่ในดินในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ หนอก็เริ่มฝักออกมาโดยเราจะเรียกว่า หนอนทราย เนื่องจากจะอาศัยอยู่ในทราย กัดกินรากพืชเป็นอาหารเมื่อถึงระยะดักแด้จะขุดรูเมื่อถึงหน้าฝนช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมจะออกมาจากระยะดักแด้เป็นตัวเต็มวัย ซึ่งในช่วงนี้จะมีการระบาดมากที่สุด และเมื่อขึ้นมาจากดินจะหากินล้วขยายพันธุ์โดยเมื่อจะวางไข่ตัวเมียจะกลับมาวางไข่ที่เดิมที่เคยเกิดนั้นเอง

            โดยการเข้าทำลายของหนอนทรายนั้น ส่วนใหญ่จะทำลายปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทับทิม สับปะรด ลองกอง หญ้าคา หลักๆคือทำลายต้นยางทำให้เกิดความเสียหายกับต้นยางที่มีอายุ 6-12 เดือนเป็นอย่างมาก หากกัดกินรากจะทำให้การดูดซับน้ำและธาตุอาหารได้น้อย ส่งผลใหพืชเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด หากกัดกินใบจะทำให้ใบมีรูพรุน ใบเหลือง และร่วงหล่น ส่งผลให้การสังเคราะห์แสงลดลง หากกกัดกินลำต้นจะทำให้ต้นพืชอ่อนแอ หักง่าย และ ตายในที่สุด

            โดยวิธีการกำจัดหนอนทรายสามารถทำได้โดย 1. การดักจับช่วงโตเต็มวัยสามารถดักจับได้ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคมสามารถดักด้วยกับดักแสงไฟหรือตาข่ายในช่วงเวลาพลบค่ำ วิธีนี้สามารถลดปริมาณได้อย่างดี 2. การใช้สารชีวภัณฑ์ที่ชื่อว่า แบคเทียร์ ใช้เรื่องการกำจัดและป้องกันหนอน โดยใช้ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นในช่วงเช้าที่มีแดดอ่อนหรือช่วงเย็น ฉีดทุก 7-10 วัน หากมีการแพร่ระบาดหนักให้ฉีดพ่นทุก 3-5 วัน ใช้ร่วมกับ ไทเกอร์เฮิร์บซึ่งเป็นสมุนไพรบดละเอียดที่ได้มาจากขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโตร ตะไตร้หอม อบเชย  ช่วยในการไล่แมลงเนื่องจากมีกลิ่นเหม็นและแสบร้อน โดยใช้ 10-20 ซีซี ต่อน้ำ               20 ลิตร

 

บทความโดย      นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร

ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด