วันนี้เราจะมาพูดคุยถึงเรื่องลำไยดูบ้าง ก็ถือว่าในช่วงนี้เป็นช่วงที่กอบโกยของชาวสวนลำไยแต่ก็ต้องมาพบกับอุปสรรค ปัญหา ทั้งสถานการณ์โควิดที่บ้านเราก็เจอ ส่วนของจีนเขาเรื่องโควิดไม่มีปัญหาแต่มีปัญหาเรื่องของอุทกภัย โลจิสติกส์ และก็เรื่องสถานการณ์ในหลายๆด้าน จะเรียกว่าการเมืองก็ได้ เดี๋ยวเราจะไปคุยกัน
ตอนนี้ทุเรียนภาคเหนือของเรา
เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตราด ก็มีผลผลิตออกมา 970,000 กว่าตัน เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วเราได้ประมาณ 800,000
กว่าตัน 6,000 กว่าตัน ทำให้ลำไยปีนี้มีมากกว่าปีที่แล้ว
เพิ่มขึ้นมา 160,000 กว่าตัน ก็ความจริงแล้วในหลายๆกรณี
ในหลายๆเคสมันสร้างความย่ำแย่
ความจริงแล้วผลผลิตที่เยอะต้องนำมาซึ่งรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร
แต่ปรากฏว่าไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตรชนิดใดๆก็ยุคนี้ สมัยนี้
ราคาก็ตกต่ำเรี่ยราดดินเลย ข้าวก็ตันละไม่ถึงหมื่น
ยางพาราก็ไม่ดีเท่าที่ควรปาล์มเอย อะไรเอย แต่ลำไยปีนี้ที่ผลผลิตเยอะก็ช่วงปลายปี
63 ก็อากาศหนาวนาน และก็มีฝนเพียงพอในการที่หล่อเลี้ยงดอกและผลอ่อนไล่ขึ้นมา
อันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องของทำถ้าผลดี แดดดี อากาศดี ไม่ว่าจะปลูกอะไรก็งาม
แต่ถ้าฝนตกฟ้าปิดไม่โตเหมือนกัน แต่ก็ในช่วงมีนาคม เมษายน จะกระทบแล้งนิดหนึ่ง
ฝนทิ้งช่วง ฝนหายก็อาจมีลำใยบางส่วนนี่ขนาดสลัดลูกทิ้งไปบ้างแล้วก็ถือว่าผลผลิตก็ยังออกมาได้ดี
ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว ลำไยเกรด A ที่ล้งเขารับซื้อสินค้า
เกรด AA ก็ 34 บาท เกรด A 27 บาท AA+A 24 บาท เป็นเกรด D 16 บาท เกรด C นี่ 12 บาท
เป็นผลร่วงก็อีกเกรดหนึ่ง
เวลาที่เกษตรกรและกลุ่มผู้นำเขามีปัญหาตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการวัดไซต์ เกรด AA
กับ เกรด A มันห่างกันแค่ 2 มิล
พ่อค้ามารับซื้อเกษตรกรก็ทำใจยาก เพราะว่าห่างกันแค่ 2 มิล 3 มิล แต่ AA 34
A 27 และก็เครื่องมาวัดขนาดของผลลำไย ยังเถียงกันไม่จบว่ามาตรฐานเป็นยังไง
ซึ่งปัญหาของเรื่องลำไยก็มีทุกปี ผมว่าหลาย 10 ปีมาด้วยซ้ำ สมัยก่อนๆก็เคยมีเกษตรกรนำลำไยมากองที่สนามหลวง
แต่วันนี้เรากำลังมีปัญหาจีนกำลังระงับการนำเข้าเพราะว่าตรวจเจอเพลี้ยแป้งในลำใย
ลำไยนี่ความจริงแล้วก็ยังมีภาคอื่น เดี๋ยวจะพูดไม่หมด ภาคตะวันออกก็มีลำไย
แต่วันนี้ก็ถือว่าที่ทุกคนชนส่วนใหญ่จะรู้จักกันดีคือลำไยจากทางภาคเหนือ
ซึ่งมีปริมาณมากเกือบล้านตัน การค้าขายกับจีนประเทศไทยเราคิดว่าคน 1,400 ล้านคน จะยังไงก็ต้องกินของไทย มากกว่าที่คนไทยไปกินของคนจีน เรามี 70
ล้านคน เขามี 1,400 ล้านคน
เราก็หวังว่าเราไปคบค้ากับจีนยังไงเราก็ได้ดุลของจีน
แต่ปรากฏว่าเราเสียดุลให้กับจีนตั้งแต่ทวิภาคีคือFTA หอม
กระเทียม เราก็กระจัดกระจายระเนระนาดระบบตลาดพัง
เพราะว่ากระเทียมของจีนเข้ามาตีตลาด สมัยที่หมูกระทะโด่งดัง 10 กว่า ปี หรือ 20 ปี
ที่ผ่านมา น้ำจิ้มของร้านหมูกระทะนี่ก็จะมีกระเทียมจีนทั้งนั้นเลย เราก็เสียเปรียบ
มาครั้งนี้เราก็เสียดุลให้จีน ถ้ารัฐบาลเก่ง
รัฐบาลมีความสามารถในการเจรจาต่อรองหรือมีความสัมพันธ์พิเศษ สนิทชิดเชื้ออย่างน้อย
การที่จีนเกินดุลเราไป เราคบกับเขา เขาก็ตัวใหญ่กว่า สูงกว่า ล่ำกว่า
คบกับเราแล้วแถมยังเรายังต้องสปอยเสียเงินการค้าเกินดุล
เพราะฉะนั้นมันต้องสะกิดกันได้ว่ามันต้องผ่อนปรน ส่งไปไม่รู้กี่ล็อตไม่ค่อยมีปัญหา
แต่ทำไมมาในช่วงที่การเมืองเราอิงแอบแนบชิดอเมริกาบ้าง ไปทางนู้นบ้าง
ครองความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของประเทศกับเพื่อนหรือมหามิตรต่างๆด้วย
ก็รู้สึกว่ามันทำมาหากิน กึกๆกักๆ นิดหน่อย ซึ่งเรื่องนี้เกษตรกรไม่มีความสามารถที่ตจะไปทำอะไรได้ต้องพึ่งกระทรวงพาณิชย์และก็พึ่งนายกรัฐมนตรีที่ต้องเก่ง
ก็ช่วยกันเจรจาต่อรอง ก็ล่าสุดก็ดีใจว่าเหมือนจีนเปิดหรือปลดล็อกให้ 50 ล้ง สามารถที่จะส่งลำใยไปได้
และก็โรงห่มอีก 6 โรง อันนี้ก็ถือว่าเป็นข่าวดีก็ได้ หรือว่าพ่อค้าจีนหรือล้งจีนมันเป็นเจ้าของคนจีนและมันซื้อล่วงหน้าและรัฐบาลจีนมันช่วยเหลือกันเองหรือเปล่า
อันนี้ก็ไม่แน่ใจเพราะว่าล้งจีนนี่ก็คนของตัวเองมาเป็นนอมินีอยู่ในประเทศไทยเป็นเจ้าของล้งสวนคนไทยและจ่ายซื้อเงินล่วงหน้า
ก็เลยต้องปลดล็อกก็ปีหน้าจะทำยังไงเพราะฉะนั้นเรื่องของเพลี้ยในลำใย
ความจริงแล้วลำไยก็มีทั้งราสนิม เพลี้ยแป้ง หนอนชอนกิ่ง หนอนเจาะกิ่ง มีรา
นู่นนี่นั่นเยอะแยะมากมาย แต่ในเมื่อจีนเขาบอกมีปัญหาเรื่องเพลี้ย
ประเทศไทยเราก็มีจุลินทรีย์ที่ปราบเพลี้ยเก่ง บ้านเรามีจุลินทรีย์บิวเวอร์เรีย
เมธาไรเซียมและกำลังจะมีตัวใหม่ล่าสุดชื่อ พาซิโรไมซิส ไรเซียนัส
ตัวนี้ปราบได้ตั้งแต่ระยะไข่ของพวกเพลี้ยต่างๆ พวกไส้เดือนฝอย
ไส้เดือนฝอยไม่ใช่เป็นไส้เดือนสีแดงๆ เป็นเส้นด้าย แล้วไปให้ปลากัดกินนะ เป็นตัวที่เรียกว่านิวมาโทร
ที่เรียกว่า อุดตันท่อน้ำท่ออาหารในระบบรากของพืชต่างๆทำให้เป็นปม ตัวพาซิโรไมซิส
ชื่อสามัญของเราก็เป็นตัว ไรเซียนัส ตัวนี้ก็เป็นตัวที่จะมาช่วย
ถ้าเราสังเกตว่าเพลี้ยแป้งที่มาเกาะดอก ช่อดอก ผล และก็ขั้ว
แล้วเราหมั่นฉีดสารสกัดพวกเปลือกมังคุด ฉีดน้ำ สกัดจากผลสับปะรด จากสารสกัดจากกาแฟ
กะทิสด ทำให้เพลี้ยมันใจสั่น ทำให้กรดจากสับปะรด ถ้าจำไม่ผิดเมทิวโบมายไปทำลายผนัง
ลำตัว ไคตินของพวกเพลี้ย ให้เกิดแผลเหมือนพุพอง พุพองน้ำร้อนลวกเกิดบาดแผล
พอมีแผลมีอะไร บิวเวอร์เรียกับเมธาไรเซียมหรือพาซิโรไมซิส ไรเซียนัส มันก็มีช่องทางในการเข้าไปทะลุทะลวงในกลุ่มเพลี้ยที่ออกมา
ที่ลูกออกหลานมาเป็นกลุ่มได้ แต่สังเกตให้ดีนิดหนึ่งมันจะมีผงแป้งละเอียดเป็นฝุ่น
ไอ่ที่เป็นกลุ่มเขียวๆ ดำๆ
นั่นคือเพลี้ยอ่อนแต่ถ้ามีเพลี้ยแป้งก็จะมีฝุ่นที่เหมือนเป็นจุดแข็ง
หรือเป็นเกราะป้องกันให้เขา ที่ให้ใช้พวกสารสกัดเปลือกมังคุด น้ำสับปะรด น้ำกาแฟ
กะทิสด อะไรเนี่ย จะได้ลดต้นทุน หมักเอง ทำเอง
ส่วนจุลินทรีย์ต้องพึ่งมืออาชีพคือไม่ใช่ว่าใครสมมุติว่าเลี้ยงไก่ชน
จะเลี้ยงเก่งทุกคน ในหมู่บ้านหนึ่งจะมี ไม่ใช่ว่าไก่มาเลี้ยงแล้วจะเก่ง
มันต้องมีองค์ความรู้แต่ถ้าจะหมักเองก็ทำได้เพื่อลดต้นทุน
แต่เวลาวิกฤติหรือระบาดต้องใช้มืออาชีพ แต่ตัวบิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม
มันการผลิตจะยาก ใช้ ขนาดเราเป็นมืออาชีพ อาจจะต้องผลิตแต่ละชนิด ใช้ระยะเวลาตั้ง
6-7 ปี และก็ให้มาตรฐานจำนวนเชื้ออยู่ในกระป๋องให้ได้ 109
มันไม่ง่ายไม่ใช่ว่าเราเอาเชื้อวุ้นต่อลงเชื้อเมล็ดธัญพืชและก็เลี้ยง
และก็มาขยำๆผสมแป้ง ผสมดินสอพอง และมาขายมีสปอร์เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ไม่เคยตรวจวัด
ถ้าเราเป็นมืออาชีพแล้วเราอยากจะให้มาตรฐานลำไยเราส่งออกได้
มันก็ต้องอาศัยบ้านคือเพราะเลี้ยงเองก็ได้ ส่งเสริมอยู่แล้ว พวกเราชาวเกษตรปลอดสารพิษ
เราสอนอบรมให้ทำเรื่องพวกนี้มาเกือบจะ 30-40 ปีแล้ว
แต่ถ้าเราสลับก็จะได้สู้กับพวกเพลี้ยแป้ง หนอน แมลง ราและก็ไรได้ด้วย
อันนี้ก็อยากให้เพื่อนๆที่ทำเกษตรจริงๆลองมาฟังและก็ไปปรับประยุกต์ใช้ในหลายๆเรื่องที่เราได้นำมาพูด
มาคุย ลำไยได้ ไม่ว่าจะเป็นลำไยก็ตาม ข้าวก็ตาม ยางพารา ลองกอง มังคุด ทุเรียน
มันจะได้มีมาตรฐาน ของเราผลิตกันได้มาตรฐานที่ไปสติติเขตจากไอฟ่ง
ไอฟ่งก็คือองค์กรระดับโลกที่การันตีว่า 5 เสือ จุลินทรีย์ชีวภาพ
มันได้มาตรฐานที่ส่งออกไปได้ทั่วโลก และก็ได้มาตรฐานออแกนิกส์ไทยแลนด์
เพื่อนๆที่จะปลูกลำไย แล้วจะเอามันให้อยู่จริงๆ
แล้วมันก็หมักขยายได้มันต้องใช้เกษตรนี่เรียนไม่จบต่อให้ใช้ยาฆ่าแมลงสารเคมีที่ยาฆ่าราต่างๆ
ก็จะเห็นว่าถ้าเป็นมืออาชีพจริงก็จะเห็นว่ามันจะสับเปลี่ยนไม่มีตัวใดตัวหนึ่งเอาอยู่ตลอดเวลาต้องสังเกต
ติดตามดูไปเรื่อยๆ แต่ข้อดีของชีวภาพเขาสามารถที่จะทำงานได้อย่างยั่งยืน
และก็สร้างสมดุล คือตายไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์จริง ตายแล้วให้เหลืออยู่บ้าง ลำไยก็แทบ
100%
ของสวนมันเสียแค่ 5% 10% ไม่ต้องซีเรียส
แต่ที่จะส่งออกมันต้องสะอาด ใช้บิวเวอร์เรีย ใช้เมธาไรเซียม
ชื่อการค้าก็คัทอ๊อฟกับฟอร์แทรนอย่างละ 50 กรัม แต่ถ้าใช้ 2 อย่างร่วมกัน
ก็ใช้อย่างละ 25 กรัม ก็ได้แล้วก็บวกสารจับใบ
ถ้าใช้สารจับใบของไทยกรีนอะโกรโดยชื่อ แอดจั๊สท์
ตัวนี้เป็นเกรดพิเศษที่ปรับน้ำเป็นสีชมพูอ่อนและก็เหนี่ยวนำให้เข้าปากใบ
แต่ถ้าเป็นม้อยท์เจอร์แพลน 100 บาท อันนี้ก็เปียกใบอย่างเดียว
เอาตัวสารจับใบเพื่อที่จะทำลายเกราะป้องกันจุดแข็งของพวกเพลี้ยแป้งที่เป็นผงฝุ่น
เพื่อนๆใช้สารจับใบพวกนี้ผสมกับยาฆ่าเพลี้ย ฆ่าหนอน
มันจะช่วยทำให้ฉีดเพลี้ยอ่อนเพลี้ยแป้ง ตายได้เยอะกว่าปกติ
แต่ถ้าไม่ผสมน้ำยาปียกใบฉีดไปเหมือนเอาแป้งมาทาก้นเด็กแล้วหยดน้ำมันไม่เปียกก้นเด็ก
มันก็ไม่ตาย ยิ่งไปจ้างคนงานฉีดแบบเร็วๆลวกๆก็ตายแต่ตัวพ่อ
ตัวที่อยู่ใต้ล่างไม่ตายเพราะฉะนั้นต้องพิถีพิถันละเอียดในการที่จะทำงานในเรื่องของการป้องกันและกำจัดเพลี้ยด้วย
บางทีก็เกษตรกรมือใหม่อาจจะไม่รู้จักเพลี้ยแป้งกับราแป้ง บางทีถ้ามันเป็นสีขาวเหมือนกันแต่มันเป็นราแป้งมันต้องใช้พวกไตรโคเดอร์มากับพวกบาซิลลัสซับทิลิสหรือบีเอส
จุลินทรีย์ไม่ใช่ว่าตัวใดตัวหนึ่งจะทำงานแบบครอบจักรวาล ต้องดูให้ดีๆ
แต่ถ้าท่านใช้พวกน้ำสกัดจากเปลือกสับปะรด สารสกัดจากเปลือกมังคุด
สารสกัดจากกระเทียมพริกไทย สารสกัดจากกาแฟโรบัสตากับน้ำกะทิเปียกใบ
สูตรถ้าทำไม่ได้ ใช้ไม่เป็น ลองไปดูที่ www.thaigreenagro.com หรือ ช่องยูทูปไทยกรีนอะโกรชาแนล
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปอลดสารพิษ www.thaigreenagro.com

