0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

มะม่วงออกดอกแต่ไม่ติดผลแก้อย่างไร

วันนี้จะมาพูดกันถึงเรื่องมะม่วงนะครับ ที่ติดดอกมีดอกแล้วแต่หลุดร่วง ไม่สามารถที่จะดำรงไว้ให้ติดผลอ่อน เราจะดูวิธีแก้ปัญหากันอย่างไร มะม่วงถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในบ้านเรา สามารถเพาะปลูกได้เกือบทั่วทั้งพื้นที่ของประเทศไทย มะม่วงติดดอกแล้ว ออกดอกมาเป็นจำนวนมากมายถูกทำลายในขั้นตอนที่มีเชื้อรา ช่วงที่มะม่วงติดดอกการผสมเกสรถ้าเจอปัญหาภัยแล้ง ฝนหลงฤดู ล้างช่อมะม่วง เจอปัญหาการผสมเกสรที่ไม่สมบูรณ์จากการขาดแคลนสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน ธาตุหลัง ธาตุรอง ธาตุเสริม ต้องเข้าใจว่าพืชที่มีสีเขียวไม่ว่าจะเป็น มะม่วง ลองกอง มังคุด ทุเรียน ก็จะมีคล้ายๆกัน พืชจะทำการสังเคราะห์แสงที่เรียกว่า Photo Syntesis เพื่อสร้างตัวสารที่ชื่อว่าคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวสารคาร์บอนไดออกไซด์ตัวนี้เมื่อรวมตัวกับน้ำที่พืชดูดกินขึ้นมาจากทางราก เวลาพืชระบายความร้อนในตัวเองจะระเหยน้ำออก จะดึงน้ำจากทางรากขึ้นมา ซึ่งจะติดสารอาหารทั้งธาตุหลักธาตุรองขึ้นมาด้วย คาร์บอนไดออกไซด์รวมตัวกับน้ำจะเกิดเป็นน้ำตาลที่ชื่อว่า กลูโคลส และจะค่อยๆเปลี่ยนเป็น ฟรุ๊คโตส ฟรุ๊คโตสคือน้ำตาลผลไม้ เมื่อเป็นฟลุ๊คโตสก็จะไปเกาะกับอีก 1 โมเลกุลของกลูโคลสก็จะกลายเป็นอาหารอีกตัวนึงที่ชื่อว่าซูโคลส

ซูโคลสเป็นโครงสร้างในการที่จะไปลำเลียงเลี้ยง กิ่ง ก้าน ใบ ลำต้น ที่เรียกว่า คาร์โบไฮเดรต สตั๊คเจอร์ ที่เป็นส่วนประกอบในเนื้อไม้ ที่เรียกว่า เซลลูโลส ริกนิน และ เฮมีเซลลูโลส หลักการที่พืชจะมีอาหารการกินอย่างดีมีครบ ไปสังเคราะห์ออกซิน ไซโตไพนิน ทริปวะริกแอซิด หรือสารฮอร์โมนต่างๆ หรือแม้กระทั่งการที่จะสะสมเป็นแป้งและน้ำตาล เป็นไขเป็นน้ำมัน เป็นกรดอินทรีย์ต่างๆจะมีมากมีน้อยที่เขาเรียกว่าถ้าตัวคาร์โบไฮเดรตเหลือจากการไปสร้างริกเป็นไนโตรเจนพืชก็จะสามารถพัฒนาไปเป็นดอกหรือการติดดอกได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราจะมาใช้ในหลักการของการทำให้มะม่วงออกดอกนอกฤดู สังเกตช่วงฤดูหลังผ่านฝนเข้าสู่ฤดูหนาว รากของพืชจะเจริญเติบโตสัมพันธ์กันกับการแตกกิ่งก้านใบ ช่วงแล้งน้ำในดินไม่มี พืชไม่สามารถที่จะดึงน้ำเอาไปพัฒนาเป็นเซลล์ยอดใหม่ได้ พืชจะหยุดการเจริญเติบโตทางใบ รากกับใบจะมีการเจริญเติบโตที่มีความสัมพันธ์กัน ส่วนสำคัญที่ใช้ในการเจริญเติบโตของพืชคือธาตุไนโตรเจน

ส่วนสำคัญในการที่พืชติดดอกแล้วไม่มีผล พืชจะต้องมีความจำเป็นในการใช้พูดถึงว่าหลุดรอดจากการที่ติดดอกแล้วผ่านราน้ำค้าง ราดำ เพลี้ยไฟ ไรแดง แล้วยังไม่ติดดอกสารอาหาร 3-4 ตัวที่มีความสำคัญ ถ้าไม่อยากรอให้ต้นไม้สังเคราะห์ฮอร์โมนด้วยตัวเองตามธรรมชาติ มะม่วงที่ติดดอกแล้วจะพัฒนาไปเป็นผลอ่อนเป็นตุ่มผลเท่าเม็ดถั่วเขียว เราจะต้องมีการบำรุงสะสมเตรียมอาหารไว้ที่ราก ระบบรากของมะม่วงจะดูดกินสารอาหารขึ้นมาได้ก็ต้องมีน้ำเป็นองค์ประกอบ ระบบน้ำ การดูดน้ำ การคลายน้ำ ของต้นไม้มีความสำคัญมีความจำเป็น 2 ด้าน คือ 1.การระบายความร้อน น้ำที่อยู่ในเซลล์ของมะม่วงเหมือนน้ำที่อยู่ในกาต้มน้ำ มันร้อน เดือด ไม่มีรูระบาย จะทำให้เซลล์โดนลวก ทำให้เหี่ยวได้ เพราะฉะนั้นจึงทำให้เกิดการระบายน้ำ  2.ดูดน้ำมาเพื่อที่จะกินสารอาหาร ถ้าเราเตรียมสารอาหารในดินไว้เพียงพอ ยิ่งเกษตรกรใช้ปุ๋ย NPK สูตรเสมอ ใช้ปุ๋ยรองเสริม ปุ๋ยรองเสริมจะมีอยู่ในแร่หินภูเขาไฟ มะม่วงที่อยากให้มีการพัฒนาและเจริญจากดอกไปเป็นผลอ่อนควรเตรียมสารอาหาร ธาตุหลักคือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุรองคือ แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน ธาตุเสริมหรือจุลธาตุคือพวกเหล็ก ทองแดง แมงกานีส สังกะสี โบรอน โมลิดินัม นิกเกิล ไทเทเนียม และ ซิลิก้า กลุ่มพวกนี้จะทำให้มะม่วงมีการผสมเกสร มีฮอร์โมน แต่ถ้าไม่เพียงพอ ช่วงมีเพลี้ยไฟไรแดง ก่อนที่จะมาบำรุงเรื่องสารอาหาร การระวังรักษาช่อดอก ถ้ามีติดช่อแล้วเราต้องฉีดพ่นสารสกัดจากกระเทียมพริกไทย 

วีธีการทำสารสกัดกระเทียมพริกไทย

1.กระเทียม 2 ขีด

2.พริกไทยดำ 1 ขีด

3.พริกป่น 1 ขีด

4.น้ำส้มสายชู 100 ซีซี

หมักร่วมกับเหล้าขาว 500 ซีซี ฉีดเพื่อกันเพลี้ยไฟไรแดง ที่เป็นศัตรูพืชในช่อมะม่วง

หรือใช้สารชีวภัณฑ์บูเวเรีย+ฟอร์เทรน( เมธาไรเซียม) จะเพิ่มความเข้นข้นในการป้องกันช่อมะม่วง บางทีเจอฝนตกกระหน่ำอาจจะเจอรา ต้องฉีดไตรโคเดอร์ม่า(อินดิวเซอร์)หรือใช้สารสกัดจากเปลือกมังคุด(แซนโธไนท์) ในการช่วยรักษาช่อ การทำให้มะม่วงพัฒนาจากดอกไปเป็นผล ไม่หลุดล่วงง่าย การใช้หินแร่ภูเขาไฟที่มีสารอาหารที่จำเป็นคือมีสารอาหารที่จำเป็นทำให้พืชติดเป็นผลอ่อนได้ง่ายคือโบรอนจะทำให้รังไข่ช่อดอกใหญ่เกิดการผสมเกสรสมบูรณ์ผลก็จะใหญ่ อีกตัวคือสังกะสีช่วยสร้างฮอร์โมนที่ชื่อออกซิน อีกตัวคือวิตามินอี ถ้าในผลิตภัณฑ์ของชมรมจะมี ไวตาไลเซอร์ มีทั้ง โบรอน สังกะสี และวิตามินอี ช่วยให้เกสรสมบูรณ์ไม่เป็นหมัน แล้วอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งคือ ซิลิซิคแอซิด หรือซิลิก้อน ถ้าไม่ใช้ไวตาไลเซอร์ ก็ต้องดูแลธาตุอาหารทางดินหรือกลุ่มหินแร่ภูเขาไฟก็เป็นตัวช่วย การสะสมอาหาร การเตรียมความพร้อม ให้มะม่วงติดดอกและติดผลด้วย อาหารต้องอุดมสมบูรณ์ มีมากเพียงพอ ทางใบต้องฉีดพวกโบรอน สังกะสีด้วย ในช่วงติดช่อดอก ต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่ตัดแต่งกิ่ง ใส่ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม เน้นการสร้างใบแก่ด้วยสูตร 114 ติดดอกต้องเติมสูตรเสมอ เติมหินแร่ภูเขาไฟที่มีความอุดมสมบูรณ์พร้อม อาจใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกเสริมด้วย ถ้าเป็นเทคนิคของทางเรา จะใช้ฉีดด้วย สังกะสี โบรอน วิตามินอีและก็ซิลิซิคแอซิด ทุกๆ 3 ถึง 7 วัน มะม่วงจะติดผล ขั้วจะเหนียวมาก ไม่หลุดง่าย หากเกษตรกรท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

เขียนและรายงานโดย ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

สอบถามเพิ่มเติมที่ 02-9861680-2 Hotline สายด่วน 084-5554205 -9 หรือ @thaigreenagro

เสนอติชมได้ที่ Email : thaigreenago@gmail.com

 

Line Official: https://lin.ee/3M1NXzf
Call Center: 084-5554205-9
ฝ่ายวิชาการ : 02-9861680-2
เว็บไซต์: www.thaigreenagro.com
Lazada: https://bit.ly/2XkPgUr

×