โกโก้นั้นจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อหลายภูมิภาคทั่วโลกเช่น โกตดิวัวร์,กานา,เบลเยียม,เอกวาดอร์ แต่ในการปลูกโกโก้นั้นก็ต้องพบความท้าทายในการปลูกที่มาทั้งโรคและแมลง ที่สามารถเข้ามาทำลายผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดโกโก้ได้อย่างมาก
ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับโรคและแมลงรวมถึงวิธีการป้องกันการกำจัดนั้น โดยโรคต่างๆนั้นสามารถเข้าทำลายได้ทั้งราก ลำต้น กิ่ง ใบ ผล ซึ่งโรคที่มีความสำคัญและสร้างความเสียหายได้มากได้แก่
1.โรคผลดำ นับว่าเป็นโรคที่มีความสำคัญและพบได้ทั่วไปซึ่งเกิดจากเชื้อราที่ชื่อว่า Phytophthora palmivora และ Phytophthora megakarya (ในแอฟริกา)
โดยโรคนี้สามารถเข้าทำลายผลโกโก้ได้แทบจะทุกระยะของการเจริญเติบโตโดยจะทำให้เกิดรอยดำ เน่า และจะมีการลุกลามได้อย่างรวดเร็วในสภาพอากาศที่มีความชื้นและมีฝนตกชุกนอกจากนี้เชื้อราของโรคนี้ยังสามารถเข้าทำลายส่วนอื่นได้อีกด้วยเช่น ใบอ่อน ยอด ลำต้น โดยอาการของโรคนี้คือจะพบรอยแผลสีน้ำตาลดำบนผลโกโก้และจะขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ผลเน่าหลุดร่วงได้ง่ายสภาพอากาศชื้นหรืออาจจะพบผงสปอร์สีขาวของเชื้อราบนผิวผล
2.โรคเส้นใยราสีชมพู จะเกิดจากเชื้อราที่ชื่อว่า Erythriciumsalmonicolor โดยโรคนี้มักจะเข้าลายกิ่งและลำต้นของโกโก้ ทำให้เกิดคราบเส้นใยสีชมพูหรือสีขาวปกคลุม ผิวเปลือกแตกและแห้งตายหากไม่ได้รับการจัดการที่ดีอาจจะทำให้ต้นโทรมและแห้งตายในที่สุด
3.โรคใบจุด มีเชื้อราหลายชนิดเข้ามาทำใหเกิดโรคนี้ในโกโก้ได้แก่ Cercospora spp., Colletotrichum spp. โดยโรคนี้จะให้เกิดจุดสีต่างๆบนใบหรือวงแหวนอ้อนกันเช่นสีน้ำตาลดำ เหลือง แต่ถ้าเกิดการระบาดรุนแรงอาจทำให้ใบร่วงและส่งผลการสังเคราะห์แสงได้
4.โรคเหี่ยวเฉา เกิดจากเชื้อราที่ชื่อว่า Ceratocystiscacaofunesta โดยโรคนี้เข้าทำลายที่ท่อน้ำและท่ออาหารของต้นส่งผลให้ต้นเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด นับว่าเป็นโรคร้ายแรงและยากต่อการควบคุม โดยสามารถสังเกตุได้จากการที่มีใบสีเหลืองร่วงหล่น กิ่งแห้งตายจากส่วนบยลงล่างเมื่อลำต้นตามขวางจะพบว่าเนื้อไม้เปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลดำ
โดยโรคที่กล่าวมานี้สามารถใช้
1.อินดิวเซอร์คือเชื้อไตรโคเดอร์ม่าที่ช่วยในเรื่องป้องกันและกำจัดเชื้อราที่เกิดทางดินได้แก่โรครากเน่าโคนเน่า ไฟธอปเทอร่า ราสีชมพู
2.ไบโอเซนเซอร์ คือเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรียชื่อ บาซิลัสซับทิลิส ที่จะช่วยป้องกันและกำจัดเชื้อราที่เกิดทางใบได้แก่ โรคราสนิม โรคใบไหม้ โรคใบจุด ได้โดยใช้ในปริมาณ 50 กรัม / น้ำ 20 ลิตร ผสมให้เข้ากันและฉีดพ่นในช่วงเย็นหรือเช้าที่มีแดดอ่อน
ต่อมาจะเป็นแมลงที่ต้องระวังในโกโก้
1.เพลี้ยจักจั่นฝอย จัดเป็นแมลงปากดูดที่สำคัญมากในหลายพื้นที่ที่มีการปลูกโกโก้ ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนอ่อนของต้น เช่น ยอดอ่อน ใบอ่อน กิ่งอ่อน และผลอ่อน ทำให้เกิดแผล เนื้อเยื่อตาย และอาจทำให้ยอดแห้ง ผลบิดเบี้ยวและร่วง
2.หนอนเจาะสมอฝ้าย จัดเป็นแมลงศัตรูที่ร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ Conopomorpha cramerella ตัวหนอนจะเจาะเข้าไปกินเนื้อในผลโกโก้ ทำให้เมล็ดลีบ เสียหาย และไม่สามารถนำไปใช้ได้ สามารถสังเกตุได้จากร่องรอยบนผิวโกโก้เมื่อผ่าออกมาดูภายในจะพบตัวหนอนและมูลของหนอน เมล็ดลีบและติดกัน ผลโกโก้มีขนาดเล็กลงรูปร่างผิดปกติ
3.มวนโกโก้ จะมีลักษณะคล้ายกับเพลี้ยจักจั่นฝอยแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าโดยมวนเหล่านี้จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนต่างๆของต้นทำให้เกิดความเสียหายคล้ายกับเพลี้ยจักจั่น
4.ด้วงเจาะลำต้นด้วงบางชนิดจะวางไข่และตัวหนอนจะเจาะเข้าไปกินเนื้อไม้ภายในลำต้น ทำให้ต้นอ่อนแอหักโค่นง่าย และอาจตายได้สามารถสังเกตุได้จากพบรูเจาะบนลำต้นและกิ่ง อาจมีขุยไม้หรือมูลของหนอนออกมา ต้นอ่อนแอและหักโค่นง่าย
ซึ่งแมลงที่กล่าวมานี้สามารถใช้
1.แบคเทียร์ คือเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรียชื่อ บาซิลัส ทูริงเยนซิส ที่ช่วยป้องกันและกำจัดหนอนต่างๆได้แก่ หนอนกระทู้ หนอนเจาะสมอฝ้าย
2.บูเวเรีย คือเชื้อราบิวเวอรเรีย บัสเซียน่า ที่จะช่วยป้องกันและกำจัดแมลงปีกอ่อนต่างๆได้แก่ ตระกูลเพลี้ย ไรแดง แมลงหวี่ขาว
3.ฟอร์แทรน คือเชื้อเมธาไรเซียม ซึ่งจะช่วยป้องกันและกำจัดแมลงปีกแข็งได้แก่ ปลวก ด้วงเจาะลำต้น ด้วงใบได้โดยใช้ในปริมาณ 50 กรัม / น้ำ 20 ลิตร ผสมให้เข้ากันและฉีดพ่นในช่วงเย็นหรือเช้าที่มีแดดอ่อนจะช่วยให้เชื้อมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษ ติดต่อสอบถามได้ที่ https://thaigreenagro.com/ บทความโดย นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด
