ค่าพีเอชของดิน
(pH) เป็นตัวชี้วัดระดับความเป็นกรด-ด่างที่ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของพืชและการละลายแร่ธาตุในดิน
โดยช่วงค่าพีเอชที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกพืชส่วนใหญ่คือ 5.8-6.3
ซึ่งถือว่าเป็นดินที่มีความเป็นกรดอ่อน ๆ
ทำไมค่าพีเอช
5.8-6.3 จึงเหมาะสมที่สุด?
การละลายแร่ธาตุและธาตุอาหารในช่วงค่าพีเอชนี้
แร่ธาตุและสารอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P),
โพแทสเซียม (K), แคลเซียม (Ca) และแมกนีเซียม (Mg) จะละลายออกมาในรูปที่พืชสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด
หากค่าพีเอชต่ำเกินไป (กรดจัด) หรือสูงเกินไป (ด่างจัด)
การละลายของแร่ธาตุเหล่านี้อาจลดลง ทำให้พืชขาดสารอาหารที่จำเป็น
การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในดิน
ค่าพีเอชที่ 5.8-6.3 ส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ในดิน
โดยเฉพาะจุลินทรีย์ที่ช่วยในการย่อยสลายอินทรียวัตถุและปลดปล่อยธาตุอาหารกลับสู่ดิน
เช่น ไนโตรเจนในรูปของไนเตรต ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับพืช
ลดความเป็นพิษจากโลหะหนักในดินในค่าพีเอชช่วงนี้
โลหะหนัก เช่น อลูมิเนียม (Al) และแมงกานีส
(Mn) จะมีความสามารถละลายน้ำลดลง
จึงช่วยลดความเป็นพิษที่อาจเกิดขึ้นต่อรากพืช
ผลกระทบของค่าพีเอชที่ไม่เหมาะสม
ถ้าค่าพีเอชต่ำกว่า 5.8 (กรดจัด) จะทำให้ธาตุอาหารบางชนิด เช่น
ฟอสฟอรัส และแคลเซียม ถูกตรึงในดินและไม่สามารถถูกดูดซึมได้
นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเป็นพิษจากโลหะหนัก
ค่าพีเอชสูงกว่า
6.3 หรือมากกว่า 7 (ด่าง) ส่งผลให้ธาตุอาหารบางชนิด เช่น
เหล็ก สังกะสี และแมงกานีส มีความสามารถละลายน้ำลดลง
ทำให้พืชขาดธาตุอาหารที่จำเป็น
วิธีปรับค่าพีเอชของดินให้เหมาะสม
1. เพิ่มความเป็นกรด โดยใช้กำมะถัน (sulfur) ยิปซั่ม (Gypsum) หรือสารปรับสภาพดินที่มีฤทธิ์เป็นกรด ใช้ปุ๋ยที่มีองค์ประกอบของแอมโมเนียม เช่น
แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0)
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปลดปล่อยกรดอินทรีย์
(organic acid) ในระยะยาว หรือจะใช้ภูไมท์ซัลเฟตถุงสีแดง
2. เพิ่มความเป็นด่างโดยใช้ปูนมาร์ล (Mark) ปูนขาว (lime) โดโลไมต์ (dolomite) ฟอสเฟต (Phosphate) เพื่อปรับค่าพีเอชให้สูงขึ้น
หรือใช้ปุ๋ยที่มีแคลเซียม เช่น 15-0-0
การเตรียมดินหรือแปลงปลูกที่เหมาะสม
ค่าพีเอชของดินที่อยู่ในช่วง 5.8-6.3
ถือว่าเป็นช่วงที่สมดุลที่สุดสำหรับการเจริญเติบโตของพืชและการละลายแร่ธาตุออกมาให้พืชนำไปใช้
การดูแลและปรับค่าพีเอชให้อยู่ในช่วงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เกษตรกรควรให้ความใส่ใจ
เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชให้สูงสุดในระยะยาว
การปรับค่าพีเอชของดินอย่างเหมาะสมไม่เพียงแค่ช่วยพืชเจริญเติบโตได้ดีเท่านั้น
แต่ยังช่วยสร้างความสมดุลให้ระบบนิเวศในดินอีกด้วย
ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่การเกษตรที่ยั่งยืน!
ดร.มนตรี
บุญจรัส
ประธานกรรมการ
บริษัท ไทยกรีนอะโกร จำกัด
ประธานชมรมเกษตรปลอดสารพิษแห่งประเทศไท