การดูแลดินและพืชให้แข็งแรงและยั่งยืนในปัจจุบันมักจะเน้นการใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมี ซึ่งตัวโพแทสเซียมฮิวเมท และ อินดิวเซอร์ ก็ถือเป็นคู่หูที่ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งช่วยในด้านการฟื้นฟูโครงสร้างดินและช่วยป้องกันโรคพืช
โดยโพแทสเซียมฮิวเมทตัวนี้จะประกอบไปด้วยสารสกัดเข้มข้นจากฮิวมัส ที่มีคุณสมบัติเด่นคือการช่วยปรับสภาพดินเหนียวหรือดินแน่นแข็งให้มีร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ช่วยให้รากพืชแผ่กระจายได้กว้างและลึกขึ้น ทำให้ดูดซึมปุ๋ยได้ดียิ่งขึ้นและเมื่อโพแทสเซียมฮิวเมทมีการสลายตัวจะมีการปล่อยไนโตรเจน กำมะถัน และ ธาตุเสริมออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชอย่างช้าๆ และ ตัวอินดิวเซอร์ที่เป็นเชื้อไตรโคเดอร์มาซึ่งเป็นเชื้อราที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและกำจัดโรคทางดินไม่ว่าจะเป็นโรครากเน่าโคนเน่า โรคเน่าคอดิน โรคไฟธอปเทอร่า โรคเน่าคอดิน รวมไปถึงโรคฟิวซาเลียม
นอกจากนี้ไตรโคเดอร์ม่ายังมีความสามารถในการให้พืชกระตุ้นสร้างเอนไซม์ป้องกันตัวเองจากโรคได้และยังช่วยเปลี่ยนเศษกิ่งไม้ให้กลายเป็นปุ๋ยที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ เมื่อนำทั้งสองอย่างมาใช้ร่วมกันจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยโพแทสเซียมฮิวเมทจะเป็นทั้งบ้านและแหล่งอาหารให้ไตรโคเดอร์ช่วงในการปรับค่าpHดินให้มีเหมาะสมในการเจริญเติบโตของเชื้อไตรโคเดอร์ม่าจึงทำให้เชื้อไตรโคเดอร์ใมีการแผ่ขยายได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีการแผ่กระจายได้อย่างรวดเร็วร่วมกับดินที่มีลักษณะร่วนซุยก็จะทำให้สามารถป้องกันการโรคในรากพืชได้อย่างทั่วถึงโดยวิธีการใช้โพแทสเซียมฮิวเมทนั้นหากนำไปเพื่อปรับสภาพที่มีความแน่นแข็งจะแนะนำให้ใช้ 2 กรัม/น้ำ 20 ลิตรจากนั้นราดลงพื้นดินได้เลย หรือหากจะนำไปผสมกับปุ๋ยคอก ใช้ในอัตรา 100 กรัม/ปุ๋ยคอก 100 กิโลกรัม แล อัตราการใช้อินดิวเซอร์จะอยู่ที่ 50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ควรจะทำทุก 15-30 วันเพื่อเป็นการเติมจุลินทรีย์และรักษาคุณภาพของดินอย่างต่อเนื่อง
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษ ติดต่อสอบถามได้ที่ https://thaigreenagro.com/ บทความโดย นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร
