วันนี้เราจะมาพูดถึงเห็ดโคนเห็นหลายคนบอกว่าเห็ดโคนนั้นปลูกยาก
มีราคาแพง และ ได้รับความนิยมในการบริโภคสูงกว่าเห็ดชนิดอื่น เรามาพูดถึงเห็ดโคนหรือเห็ดปลวกกันก่อนเลยโดยเห็ดโคนหรือเห็ดปลวกนั้นจะจะพบเจอตามธรรมชาติมากกว่าเนื่องจากจะจะอาศัยเละเจริญเติบโตจากรังตัวอ่อนของปลวกนั้นเองโดยจะอาศัยพึ่งพากันและยัง
ซึ่งวิธีการพึ่งพานั้นก็คือปลวกจะอาศัยสปอร์หรือส้นใยในตัวเห็ดเป็นสารอาหารและเห็ดจะอาศัยสารเคมีที่ปลวกขับถ่ายออกมาเป็นแหล่งอาหารนั้นเอง
ในปัจจุบันนั้นมีคนทดลองที่จะพยายามเพาะเห็ดโคนแต่ยังไม่สำเร็จเนื่องจากสภาพแวดล้อม
อุณหภูมิ ความชื้น หรือ อาจจะเป็นส่วนของปลวกที่นำมาใช้เพาะเห็ดการนำปลวกมาเลี้ยงกับเห็ดโคนนั้นต้องเป็นปลวกชนิดที่เพาะเลี้ยงเชื้อเห็ดโคนเท่านั้น
ไม่ใช่ปลวกที่กัดกินทำลายไม้ นั้นจึงเป็นสาเหตุหลักที่ให้เพาะปลูกเห็ดโคนหรือเห็ดปลวกได้ยาก
และ มีราคาแพง แต่จะมีบางคนที่ใช้จาวปลวกที่สำหรับเพาะเลี้ยงเห็ดโคนมาปลูกเห็ดโคนเราจะเรียกว่า
เห็ดจาวปลวกนั้นเอง และมีเห็ดโคนอื่นๆที่มีคนสามารถปลูกได้อย่างง่ายและแพร่หลาย เช่น
เห็ดโคนน้อย(เห็ดถั่ว) เห็ดโคนญี่ปุ่น
โดยวิธีการเพาะเห็ดโคนน้อย(เห็ดถั่ว) สามารถใช้วัสดุเพาะที่เป็นใบถั่วต่างๆ
ฟางข้าว ทะลายปาล์มน้ำมัน ผักตบชวา ใบกล้วย ซึ่งสามารถหาได้ตามท้องถิ่นทั่วไป ขั้นตอนในการเพาะเห็ดโคนน้อย
อัดวัสดุเพาะในกระบะหรือแบบพิมพ์ เสร็จแล้วทำการอัดฟางให้แน่นแล้วนำเชือกมามัดฟางให้แน่นให้ได้น้ำหนัก3-4 กก.จากนั้นใช้
อาหารเสริมเห็ดดีพร้อม ซึ่งจะช่วยให้แก้ปัญหาดอกเห็ด เล็ก แหลมเรียว ใช้ในอัตรา 3
ช้อนแกง ต่อน้ำ 5 ลิตร จากนั้นใส่เชื่อเห็ดลงไป ยีก้อนเห็ดให้กระจายออก
แล้วผสมกับรำข้าวในอัตราส่วน 1:1
แล้วหยอดเชื้อรอบๆให้ห่างกัน 10-15 ซม. และลึก
1 นิ้ว จากนั้นนำพลาสติกสีดำหรือฟ้า
มาคลุมที่กองเพื่อเป็นตัวดึงดูดแสงและควบคุมอุณหภูมิดี และคลุมทับด้วยกระสอบป่านหรือฟางข้าวอีกชั้นเพื่อให้เกิดความร้อนภายในกองประมาณ
35-45 องศาเซลเซียสใช้วเลา 4-5 วัน เส้นใยเห็ดจะเจริญทั่ววัสดุเพาะทำการกระตุ้นดอกเห็ดโดยการใช้แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ดจะช่วยในเรื่องสร้างภูมิต้านทานในการเข้าทำลายของศัตรูเห็ด
เห็ดโตไว น้ำหนักดี อายุการเก็บยาวนานทำให้ผลผลิตสูง อัตราการใช้ 5 ช้อนแกง ต่อน้ำ 5-10 ลิตร จากนั้นยกวัสดุคลุมกองให้สูงเพื่อเวลาการเก็บผลผลิตจะได้สะดวกยิ่งขึ้น
วิธีการเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น เราจะผสม 1. ฟางข้าวสับขนาด 2 นิ้ว จำนวน 100 กก. 2. แคลเซียมเห็ด
2 กก. ตัวแคลเซียมเห็ดจะช่วยในเรื่องเพิ่มแคลเซียมให้แก่เห็ด
ปรับสภาพpHให้เป็นด่างอ่อนในช่วงหมักผสม
3. ภูไมท์ 2
กก. จะช่วยในเรื่องการจับกลิ่นแอมโมเนีย
4. รำข้าวละเอียด
5-8 กก. 5. น้ำ ทำการหมักทิ้งไว้
8-10 วัน เมื่อครบกำหนดนำมาบรรจุลงในถุงพลาสติกทนร้อนขนาก
7*12 นิ้ว น้ำหนักถุงประมาณ 600-800 กรัม และใส่คอขวด
หุ้มด้วยกระดาษรัดยาง นำไปนึ่งฆ่าเชื้อ ทิ้งไว้ให้เย็นและใส่เมล็ดข้าวฟ่างที่มีเส้นใยเห็นประมาณ
15-20 เมล็ด ในอุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส
ใช้เวลาในการบ่ม 15 วัน จากนั้นจะกระตุ้นการออกดอกโดยการใช้แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ดจะช่วยในเรื่องสร้างภูมิต้านทานในการเข้าทำลายของศัตรูเห็ด
เห็ดโตไว น้ำหนักดี อายุการเก็บยาวนานทำให้ผลผลิตสูง อัตราการใช้ 5 ช้อนแกง ต่อน้ำ 5-10 ลิตร สำหรับโรงเรือนเปิดดอกเห็ดนั้นควรควบคุมให้อยู่ในอุณหภูมิ
24-30 องศาเซลเซียส ความชื้นไม่ต่ำกว่า 60-80%
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษ
ติดต่อสอบถามได้ที่ https://thaigreenagro.com/
บทความโดย นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร
ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร
บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด

