0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

“เมล็ดดำ เมล็ดด่าง” ในหน้าฝน: เคล็ดลับที่เกษตรกรยุคใหม่ต้องรู้!

หน้าฝนมาทีไร ปัญหาข้าว “เมล็ดดำ เมล็ดด่าง” “เมล็ดลีบ” หรือ “เมล็ดลาย” ก็ตามมาหลอกหลอนเกษตรกรเสมอ โดยเฉพาะช่วงที่รวงข้าวอ่อน ๆ โผล่พ้นจากกาบใบ แล้วเจอความชื้นหรือฝนตกหนัก ๆ บอกเลยว่าปวดใจ! ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อรา แบคทีเรีย ไฟโตพลาสมา หรือไวรัส ยิ่งความชื้นสูง แบคทีเรียยิ่งชอบ
ทำไมข้าวของเราถึงอ่อนแอ?
สาเหตุหลัก ๆ คือ ต้นข้าวขาดภูมิคุ้มกัน เหมือนคนเราที่ป่วยง่ายเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำนั่นแหละครับ ถ้าต้นข้าวขาดเกราะป้องกัน ก็พร้อมที่จะเป็นโรคได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะใน นาชลประทาน ที่มักจะเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยกว่า เพราะดินดี น้ำดี ใส่ปุ๋ยเต็มที่ ต้นข้าวเลยอวบอ้วนสมบูรณ์เกินไป พอเจอโรคก็ป่วยง่ายกว่าข้าวที่แข็งแรงจากภายใน เชื้อราตัวร้ายที่มักจะมาในช่วงนี้ก็มีเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะเป็นฟิวซาเรียม สเควเรเทียม หรือไรซอกโทเนีย และที่สำคัญ หนอนกอ หนอนใบขาว เพลี้ยจักจั่น และ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ข้าวเสียหาย พวกศัตรูพืชเหล่านี้ไม่เพียงแค่กัดกิน แต่ยังเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสและไฟโตพลาสมามาสู่ต้นข้าว ทำให้เกิดโรคเมล็ดด่าง เมล็ดลีบได้อีกด้วย นอกจากนี้ เมล็ดลีบ ยังเกิดจากการขาดสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามินอี หรือ กำมะถัน (ซัลเฟอร์) ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างโปรตีนและกรดอะมิโนที่ช่วยในการผสมเกสร หรือแม้แต่การขาด สังกะสี และ โบรอน ก็ส่งผลกระทบเช่นกัน และที่มองข้ามไม่ได้คือ แมลงสิง ที่มาดูดกินเมล็ดข้าวในระยะน้ำนม ทำให้ข้าวปลายรวงไม่ได้รับอาหารเต็มที่
สร้างเกราะป้องกันให้ข้าว ด้วย “ซิลิก้า” ตัวช่วยสำคัญ!
จากสถิติที่เราส่งเสริมเกษตรกรมา ปัญหาข้าวเมล็ดด่าง เมล็ดดำ เมล็ดลาย จะลดลงไปถึง 60-70% เลยทีเดียว ถ้าเราสามารถเพิ่มการสะสม ซิลิก้า ให้กับต้นข้าวได้ตั้งแต่แรกเริ่ม!
เคล็ดลับง่าย ๆ ในการใช้ซิลิก้า:
เตรียมดินให้พร้อม: ตอนเตรียมเทือก ให้ใส่ ภูไมท์ ภูไมท์ซัลเฟต พูมิช หรือ พูมิชซัลเฟอร์ ในปริมาณ 20-40 กิโลกรัมต่อไร่ สารเหล่านี้มีซิลิก้าสูง ช่วยปรับโครงสร้างดินและเพิ่มความแข็งแรงให้ต้นข้าว
ปรับค่า pH ของดิน: ควรปรับค่า pH ให้อยู่ระหว่าง 5.8-6.3 นี่คือพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ต้นข้าวมีภูมิต้านทานที่ดี
เติมซิลิสิค แอซิด: หากการใส่ทางดินไม่เพียงพอ หรือต้องการเร่งเสริมความแข็งแรง ก็สามารถเติม ซิลิสิค แอซิด ทางใบได้ในช่วงที่ฉีดปุ๋ยยาฮอร์โมน (ประมาณ 50 วันหลังปลูก) โดยใช้ ซิลิสิค แอซิด 5 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น
เมื่อเกิดปัญหาแล้ว จะแก้ยังไงดี?
หากข้าวของเราเริ่มมีอาการเมล็ดด่าง เมล็ดดำไปแล้ว การป้องกันด้วยการเตรียมดินหรือใส่ปุ๋ยอาจจะไม่ทันการ เราต้องเน้นที่การ รักษา ครับ
วิธีรับมือฉุกเฉิน:
น้ำด่างธรรมชาติ: ลองใช้น้ำด่างจาก น้ำขี้เถ้า (จากขี้เถ้าหัวหงอกเตาฟืนหรือเตาถ่าน) หรือ น้ำปูนใส หรือ น้ำจากขี้เถ้าแกลบเผา โดยนำน้ำด่างมาละลายน้ำ (1-3 กำมือ หรือ 1-2 กิโลกรัม ต่อน้ำตามสัดส่วน) กรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะน้ำใส ๆ แล้วฉีดพ่นทันทีหลังฝนตกใหม่ ๆ จะช่วยทำลายสปอร์เชื้อราได้
โพแทสเซียมซิลิเกต: สารนี้เป็นน้ำด่างที่มีซิลิก้าผสมอยู่ ช่วยทั้งรักษาและเสริมความแข็งแรงไปพร้อมกัน
น้ำสกัดจากเปลือกมังคุด: สุดยอดภูมิปัญญาไทย! นำเปลือกมังคุด 200 กรัม ผึ่งลมให้แห้ง สับ โขก บด ตำ แล้วหมักกับเหล้าขาว หรือแอลกอฮอล์ล้างแผล ประมาณ 7 วัน จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง สารสกัดจากเปลือกมังคุดจะมีสารฝาด หรือ แซนโธนิน ที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโรค ใช้เพียง 2 กรัม ผสมกับ ผงจุลสี 2 กรัม และ น้ำด่าง แล้วฉีดพ่น รับรองว่าใบข้าวจะใสสะอาด ปราศจากโรค!
ยกระดับการรักษา ด้วยชีวภัณฑ์มืออาชีพ!
ในกรณีที่มีการระบาดรุนแรงจนถึงระดับเศรษฐกิจ การฉีดซิลิสิค แอซิดอาจจะไม่ทันการ แนะนำให้ใช้ สารชีวภัณฑ์ ที่เป็นมืออาชีพ มีทะเบียนรับรอง และได้รับมาตรฐาน Organic Thailand อย่าง อินดิวเซอร์
การใช้อินดิวเซอร์:
ใช้ฉีดพ่น: เพียง 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
คุ้มค่ากว่า: หากรู้สึกว่าต้นทุนสูง สามารถนำไป หมักขยาย เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้งานได้
อินดิวเซอร์ สามารถใช้ฉีดสลับกับ ไบโอเซนเซอร์ เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาโรคใบด่าง ใบดำ ใบจุด ที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียในนาข้าวได้อย่างยอดเยี่ยม!
หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถกดไปที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ
https://thaigreenagro.com/ Line officl : @thaigreenagro , โทรศัพท์ 0-2986-1680, 084-555-4207
บทความโดย
นายสายชล ทองเศรษฐี
ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด
×