เพิ่มมูลค่าดินปลูกด้วยภูไมท์ สู่การเกษตรยั่งยืน

สวัสดีพี่ๆเกษตรกรทุกท่านนะครับวันนี้ผมก็ได้มีโอกาสนะครับนำสิ่งที่ดีแล้วก็มีประโยชน์มาให้กับพี่ๆเกษตรกรอีกเช่นเคยนะครับโดยผมได้มีการได้ลงพื้นที่กับทางบริษัทไทยกรีนอะโกรของเรานั่นเองนะครับโดยผมได้เข้าไปพบกับพี่ๆเกษตรกรในอำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทองก็ได้พบว่าในพื้นที่อำเภอสามโก้พี่ๆเกษตรกรหลายท่านเลยนะครับได้มีการทำดินปลูกไว้ใช้เองในครัวเรือนหรือว่านำไปจัดจำหน่ายกันในตามท้องตลาดกันมากมายเลยโดยผมได้พบกับพี่ๆเกษตรกรกลุ่มนี้แล้วก็ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็พบว่าพี่เกษตรกรมีการทำดินปลูกกันหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการนำเศษไม้เศษใบไม้ต่างๆที่อยู่ใต้รอบโคนต้นไม้มาหมักแล้วก็ร่วมกับมูลสัตว์ต่างๆ กันเป็นหลักเลยก็ว่าได้โดยปกตินะครับทางพี่เกษตรกรเขาจะขายดินปลูกกันอยู่ 8 ถุง 100 หรือ 10 ถุง 100 บาท  จึงทำให้ผมอยากนำเคล็ดลับดีๆในวิธีการเพิ่มมูลค่าและก็เพิ่มประสิทธิภาพให้กับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกหรือว่าดินปลูกต่างๆมาให้กับพี่ๆเกษตรกรทุกท่านด้วยตัวภูไมท์นั่นเองนะครับเดียวเราไปทำความรู้จักกับตัวภูไมท์กันเลย

ภูไมท์ (Magnesite) คือแร่ธาตุธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อดินและพืชผลทางการเกษตรเป็นอย่างมาก การนำภูไมท์มาใช้ในการปรับปรุงดิน จะช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตแข็งแรง และให้ผลผลิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ภูไมทยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี และยังช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้อีกด้วย

ประโยชน์ของภูไมท์ต่อดินและพืช

• ช่วยเพิ่มซิลิก้าในดินให้อยู่ในรูปที่พืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งซิลิก้าถ้าพืชดูดขึ้นไปใช้ จะตกผลึกที่เซลล์ในส่วนต่าง ๆ ของต้นพืชจะทำให้เซลล์พืชแข็ง จึงทำให้พืชแข็งแกร่ง ลดการล้มของพืช เช่น ข้าว อ้อย เป็นต้น ทำให้ทนต่อการเข้าทำลายของโรค แมลง ไร รา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงและสารกำจัดโรคพืชต่าง ๆ ในผักจะทำให้ผักกรอบและเก็บไว้ได้นานกว่าผักที่ได้รับซิลิก้าน้อย
• ทำให้ปุ๋ยละลายเร็วเป็นปุ๋ยละลายช้า ลดการสูญเสียปุ๋ยเมื่อถูกน้ำหรือฝนชะล้าง ลดการเฝือใบของพืช พืชไม่ชะงักการเจริญเติบโต ยืดระยะเวลาการให้ปุ๋ยครั้งต่อไป ทำให้ประหยัดต้นทุนการซื้อปุ๋ย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์
• ทำลายสารพิษและตรึงสารพิษไม่ให้เป็นอันตรายกับพืช ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเราฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าเพื่อหวังหญ้าตายและไม่กลับมาขึ้นในแปลงเพาะปลูกอีกอย่างที่เขาโฆษณาว่าตายถอนรากถอนโคน ซึ่งยาฆ่าหญ้าที่เราฉีดพ่นและฝังตัวลงดินกว่าจะสลายตัวหมดก็ใช้ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเราไม่สามารถปลูกพืชอื่นได้เลย ถ้าปลูกได้พืชก็ไม่งามเท่าที่ควรจะเป็นเพราะยังติดฤทธิ์ของยาฆ่าหญ้าอยู่ สำหรับในพืชอาจจะไม่ค่อยเห็ดชัดเจนนัก แต่สำหรับในการเลี้ยงสัตว์น้ำนั้นเห็ดได้ชัดเจนในช่วงการเตรียมน้ำก่อนปล่อยสัตว์ พบว่าการทำสีน้ำหรือทำแพลงค์ตอนพืชและแพลงค์ตอนสัตว์ไม่เกิด เพราะมียาฆ่าหญ้าผสมติดมากับน้ำที่เรากำลังจะเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
• ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ป้องกันดินแห้งและช่วยให้ดินอุ้มน้ำดีขึ้น ดินร่วนซุย และจะค่อย ๆ ทำให้ดินดีขึ้นตามลำดับ

วิธีการใช้

1.      ใช้เดี่ยว ๆ หว่านกระจายทั่วทรงพุ่มหรือหว่านทั้งแปลง อัตราการใช้ 40-80 กิโลกรัม/ไร่

2.      ใช้ผสมปุ๋ยเคมี ในอัตรา ภูไมท์ 1 ส่วน ต่อปุ๋ยเคมี 5 ส่วน

3.      ใช้ผสมปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ในอัตรา ภูไมท์ 1 ส่วน ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 10 ส่วน

4.      ในไม้กระถางใช้กระถางละ 1-2 ช้อนชา

เป็นไงบ้างครับพี่ๆก็ได้รู้จักกับตัวภูไมท์กันแล้วใช้ไหมครับว่ามีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการปรับปรุงดินหรือว่าจะช่วยเพิ่มการต้านทานต่อโรคและแมลงให้กับต้นพืชทำให้ผลผลิตออกมาดีลูกโตสมบูรณ์ โดยสามารถนำไปใช้โดยตรงเลยก็ได้หรือว่าจะไปเพิ่มประสิทธิภาพหรือว่าคุณประโยชน์ของปุ๋ยหมักปุ๋ยข้อหรือดินปลูกของเราก็ได้อีกด้วยนั่นเองนะครับถ้าพี่ๆเกษตรกรท่านใดนะครับทความโดย    

นายสายชล ทองเศรษฐี

ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด