0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

เฝ้าระวังโรคราแป้งที่มาพร้อมอากาศหนาว

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงหลังการเก็บเกี่ยวข้าว เกษตรกรส่วนใหญ่จะเริ่มทำการเพาะปลูกพืชผักเพราะในช่วงฤดูหนาวพืชผักจะงอกงามอย่างดีแต่อากาศที่หนาวเย็นบวกกับความแล้ง แมลงและเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัสก็จะสามารถแพร่พันธุ์และระบาดได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน วันนี้เราจะมาพูดถึงโรคราแป้งที่จัดอยู่ในกลุ่มโรคที่ให้มีการเฝ้าระวังการระบาดในช่วงฤดูหนาวพบมากที่สุดในกลุ่มผักกินใบ เช่น ผักโขม บราสสิก้า และผักกาดหอม  เป็นต้น

โรคราแป้งคืออะไร ?

เชื้อราที่ทำให้เกิดโรคราแป้ง ( Erysiphe, Podosphaera, Oïdium, Leveillula ) เป็นเชื้อราที่อาศัยอาหารเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าเชื้อราเหล่านี้กินเซลล์พืชที่มีชีวิตและแทบจะอยู่รอดไม่ได้หากไม่มีพืชที่มีชีวิต เชื้อราเหล่านี้อยู่รอดในรูปของแอสโคสปอร์หรือเพอริทีเซีย ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีแอสโคสปอร์อยู่ เชื้อราโรคราแป้งทั้งหมดยังไม่พบแอสโคสปอร์ โดยเฉพาะในพืชเรือนกระจก แอสโคสปอร์ไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการระบาดของโรค

สปอร์ของเชื้อราจะงอกบนผิวใบและท่อเชื้อโรคจะเติบโตและแตกแขนงออกไปบนผิวใบ โครงสร้างขนาดเล็กจะถูกสร้างขึ้นที่เรียกว่า haustoria ซึ่งเชื้อราจะแทรกซึมเข้าไปในเซลล์พืชและดูดซับสารอาหารจากชั้นผิวหนังของเซลล์พืช เชื้อราส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ภายนอกผิวพืช บนไมซีเลียมบนผิวพืชจะมีการสร้าง conidiophore ใหม่ ซึ่งมีโครงสร้างที่มีสปอร์ใหม่ที่เรียกว่า conidia conidiophore เหล่านี้เป็นเชื้อราที่เจริญเติบโตเป็นปุยซึ่งมักพบในราแป้ง ในพริกไทยเท่านั้นที่การติดเชื้อ (โดยLeveillula taurica ) จะเกิดขึ้นผ่านปากใบและเชื้อราจะเติบโตภายในใบ ต่อมา conidiophore ในกรณีนี้ก็จะยื่นออกมาจากปากใบด้วย

โคนิเดียเป็นช่องทางหลักในการแพร่กระจาย โดยแพร่กระจายโดยลมเช่นเดียวกับแอสโคสปอร์ โดยทั่วไปเชื้อราราแป้งไม่ทนต่อน้ำมากนัก ดังนั้นฝนหรือน้ำค้างจึงมักจำกัดการระบาดได้ และการแพร่กระจายของสปอร์โดยฝนก็แทบไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากสปอร์จะระเบิดเมื่อสัมผัสกับน้ำไม่เกินสองสามชั่วโมง

ลักษณะอาการโรคราแป้ง

• เชื้อราคล้ายผงแป้งสีขาวเกิดเป็นหย่อม ๆ บนใบ มักพบที่ใบส่วนล่าง หากพบการระบาดรุนแรง ใบจะค่อย ๆ ซีดเหลืองและแห้ง ถ้าพืชเป็นโรคในระยะติดผลอ่อนจะทำให้ผลแกร็น บิดเบี้ยว ผิวขรุขระ เป็นตุ่ม หรือแผลที่เปลือก

วิธีป้องกันโรคราแป้ง

• ใช้พันธุ์ต้านทานที่มีการรับรองมาตรฐาน

• ใช้ซิลิซิคแอซิดธาตุซิลิก้าฉีดพ่นทางใบเสริมเข้าไปจะทำให้ผนังเซลล์แข็งแรงขึ้นและทำให้เชื้อราเข้าสู่ใบได้ยากขึ้น

ใช้แซนโธไนท์หรือสารสกัดจากเปลือกมังคุดในการฉีดพ่นเพื่อชะล้างสปอร์ของเชื้อราที่เกาะติดอยู่ที่ใบและส่วนต่างๆ

• อย่าใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดโรคราแป้งได้

นางสาว คนึงนิจ  หอมหวล

ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด

บทความโดย      นางสาวคนึงนิจ หอมหวล

ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด

Line Official: https://lin.ee/3M1NXzf
Call Center: 084-5554205-9
ฝ่ายวิชาการ : 02-9861680-2
เว็บไซต์: www.thaigreenagro.com

×