วันนี้เราจะมาพูดกันเกี่ยวกับเรื่องของไข่ที่หลายคนน่าจะทราบถึงประโยชน์กันอย่างดีแท้แน่นอนในเรื่องของเมนูอาหารว่าสามารถทำได้หลากหลาย ไม่ต้องมีฝีมือมาก ไม่ต้องเก่งเยอะ ขอให้มีไข่ประจำบ้านรับรองว่า ก็ได้เมนูอันหอมหวนชวนกินอย่างแน่นอนโดยเฉพาะไข่เจียวร้อนๆ วันนี้เราจะมาคุยเรื่องของการใช้ไข่ในการทำเกษตร เดี๋ยวเรามาดูกันนะครับว่าไข่นั้นจะมีประโยชน์อย่างไรบ้างในการเกษตร
ในยุคสมัยก่อนมีการนำเอาเปลือกไข่เอามาใช้ในการเกษตร ในการหมักเป็นปุ๋ยบ้าง เอาไปใส่โคนต้นบ้าง ตอนนั้นผมมีโอกาสไปร่วมจัดการบรรยาย ที่ชมรมเกษตรธรรมชาติประยุกต์ ที่หนองจอก มีนบุรี มีการเล่าถึงโรงงานทำเกี่ยวกับพวกไข่เหลือเปลือก เอาเปลือกไปใส่โคนต้นไม้เป็นปุ๋ยและปรากฏว่าทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตงอกงามดี และก็ในช่วงนั้นรู้จักการทำฮอร์โมนไข่ ของท่านอ.สุวัฒน์ ทรัพยะประภา เป็นต้นกำเนิดของการทำฮอร์โมนไข่ เท่าที่ตอนนั้นได้ทดลอง ได้เรียนรู้ ที่ท่านอ.สุวัฒน์ นำมาเล่าให้ท่านอ.ดีพร้อม ฟังที่ตึกจุลชีววิทยา ปรึกษาหารือกันในเรื่องของการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆเอามาช่วยพี่น้องเกษตรกร ตอนนั้นท่านอ.ดีพร้อมทำหลายเรื่องส่งเสริมเรื่องการใช้พวกบาซิลลัส พวกจุลินทรีย์ และก็พวกปุ๋ยขี้กุ้ง และก็มาเป็นพวกซีโอไลท์ พวกหินแร่ภูเขาไฟ และจนมาเจอท่านอ.สุวัฒน์ ท่านก็เป็นนักเคมีและก็พัฒนา คุย ประยุกต์ใช้ด้านเคมีเอามาประยุกต์กับด้านวิชาการเกษตรกับอ.ดีพร้อม ก็ได้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและก็นวัตกรรมที่เป็นแบบภูมิปัญญาชาวบ้านที่เป็นประโยชน์มากๆก็คือ ฮอร์โมนไข่ ที่มีไข่ไก่ 5 กิโลกรัม สับ โขก บด ตำ ให้ละเอียดหมักกับกากน้ำตาล 5 กิโลกรัม หรือบางคนจะเรียกว่าเป็น 5 ลิตรก็ได้ แต่กากน้ำตาลบางรุ่นก็ ข้น หนืด เหลว ต่างกัน ก็เลยใช้วิธีการทำให้เท่ากันเป็นโลไปเลย กวนให้เข้ากันและก็ใส่ลูกแป้งข้าวหมาก ลูกแป้งข้าวหมากเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน เขาใช้ทำข้าวหมาก ใช้ทำปลาส้ม ปลาเจ่า ในลูกแป้งข้าวหมากก็ประกอบไปด้วยพวกสมุนไพรที่ไม่ทำให้เชื้อโรคเข้ามาเจริญเติบโตในปลา ในข้าวหมาก ในการถนอมอาหารต่างๆ ส่วนใหญ่ก็มีพวกชะเอมเทศ กระเทียม พริกไทย สมุนไพรที่สะสม เป็นการ select สิ่งมีชีวิต เขาเรียกว่า select media คืออาหารที่เลือกการเจริญเติบโต เหมือนต้องการให้มีวัวก็มีการปลูกหญ้า อยากให้มีเสือก็ต้องเลี้ยงพวกเก้ง กวาง ให้เป็นแหล่งอาหารในป่านั้นๆ ก็เป็นที่มาของการเอาลูกแป้งใส่ เอายาคูลล์ แลคโตบาซิลลัสใส่ย่อยสลาย ก็ทำเอาไปฉีด แต่วัตถุประสงค์ตอนนั้นที่โดดเด่นและก็จำได้แม่นยำว่าเราส่งเสริมให้ใช้ฮอร์โมนไข่คือเอาไปเปิดตาดอก ไปทำเรื่องของ CN ratio CN ratio คือสัดส่วนของคาร์บอนกับตัวไนโตรเจน คือเมื่อใดก็ตามที่คาร์บอนสูงกว่าไนโตรเจน พืชเขาจะพัฒนาเจริญเป็นตาดอกแต่ถ้าเมื่อใดก็ตามไนโตรเจนมีปริมาณมากกว่าคาร์บอนพืชก็จะพัฒนาไปเป็นใบอ่อนเพราะฉะนั้นหลักการง่ายๆ ถ้าสภาพดินดี ต้นสมบูรณ์ สะสมอาหารพร้อม และก็ทำให้ใบเขาสะสมคาร์บอนให้สูงมากกว่าไนโตรเจน เขาก็จะพัฒนาในการติดดอกออกผล แล้วถ้าไม่มีตัวฮอร์โมนไข่ ไม่มีน้ำตาลทางด่วน ไม่มีไทโอยูเรีย ไม่มีโมโนโพแทสเซียมฟอสเฟต 0-52-34 ไม่มีภูไมท์ ไนโตรเจน แล้วทำไมมันมีดอก ก็สมัยก่อนฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล ไม่มีคนไปทำลายป่าไม้ ไม่ทำให้โลกร้อน ไม่มีแอร์คอนเน็คชัน ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้โอโซนเกิดช่องโหว่ พอก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซเรือนกระจกทั้งหลายสะสมอยู่ ทำให้แสงส่องลงมา ทำให้อุณหภูมิไม่สามารถระบายกลับไปได้เกิดรูรั่วเหมือนเรานั่งในรถยนต์แล้วก็ดับเครื่อง ปิดกระจกหมด แสงส่องลงมาร้อนแต่อุณหภูมิไม่ออก โลกร้อนขึ้น ขั้วโลกน้ำแข็งละลายน้ำจะท่วมโลก ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล อากาศหนาวก็หนาวกระปิดกระปอย หนาวบ้าง ไม่หนาวบ้าง ทำให้คนพูดว่าประเทศเรานั้นเป็นประเทศที่ ไม่มีหน้าหนาว มีแต่หน้าร้อนมาก ร้อนปานกลาง และก็ร้อนน้อย ไม้ผลตามฤดูกาลในอดีตเกิดดอกได้ยังไง ก็ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล หน้าหนาวก็หนาวตรงฤดู พอเข้าหน้าหนาว คาร์บอนของมะม่วง เงาะ ลองกอง มังคุดก็จะได้รับการสะสมอย่างเป็นระบบ เป็นระเบียบ หมายความว่าหลังจากที่หมดฤดูฝน ก็เอาไนโตรเจนมาปรากฏการณ์ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฝนตกไปหลัง 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ต้นหญ้าทุ่งนาเขียวขจี ที่เขียวเพราะว่าฝนนั้นนำทางไนโตรเจน ฝนที่ตกต้องตามฤดูกาลก็เป็นช่วงฤดูเพาะปลูกของชาวไร่ชาวนา ชาวสวน ในสมัยก่อนก็จะปลูกตรงนี้พอดีแล้วก็ให้น้ำฝนบำรุงบวกปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ แล้วก็ไปเดือนพฤศจิกายนเริ่มเข้าหนาว พอเข้าหนาวดินเริ่มแห้ง หน้าฝนดินแฉะละลายเอาอินทรีย์วัตถุพวกออแกนิกส์แมทเตอร์ที่โคนต้นทั้งหลาย เพราะฉะนั้นคนที่ทำมะม่วงแบบเซียนหน่อย เขาก็กวาดเศษไม้ใบหญ้า ช่วงใกล้จะเปิดดอกไม่ให้มีขี้ไก่ ขี้วัว ขี้ควาย เดี๋ยวน้ำฝนจะไปทำละลายแล้วก็มะม่วงมีใบอ่อนอีกถ้ากินปุ๋ย ก็จะกวาดทำความสะอาดใต้ทรงพุ่ม ทำดินเป็นคันล้อมชายขอบ หรือเอาไว้ราดสารก็แล้วแต่ พอมันหนาวนานดินมันแห้ง ดินแห้งหนาวแล้วหนาวอีกไปถึงธันวาคม ดินแห้งจนไส้เดือนต้องขึ้นมาจากผิวดิน มันแห้วจริง หนาวจริง การที่ดินแห้งมะม่วงก็หยุดการใช้ไนโตรเจนอากาศหนาวก็ปากใบก็ปิด ไม่กินเพิ่ม พักตัว ไนโตรเจนก็น้อยลง กินอาหารสะสมอยู่ในลำต้นก็กลายเป็นคาร์บอน คาร์โบไฮเดรต ผิวใบ ใบจะเขียวเข้มอั้นปริ่ม ฤดูกาลไหนที่หนาวนานหนาวทนฤดูนั้นไม้ผลจะถูก มะม่วง หรือเงาะ ลองกองทุเรียนทั่วประเทศก็จะติดดอกออกผลดี อันนี้เป็นที่มาในเรื่องของฮอร์โมนไข่ เราพยายามเอาฮอร์โมนไข่ในฤดูกาลที่มันหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิม ก็ต้องมีตัวช่วยกันหน่อย ตัวช่วยที่ไม่ต้องเสียตังเลยก็คือฮอร์โมนไข่ ฉีด 5 ซีซีหรือ 10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ถ้าดินมีปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์หรือใบอ่อนเยอะ ตัวนี้อาจจะต้องเติมน้ำตาลไป 100 กรัม บวก 0-52-34 หรือโมโนโพแทสเซียมฟอสเฟต สัก 20-30 กรัม หรือ 1-2 ช้อนแกง ก็จะช่วยทำเรื่องของคาร์บอนได้แต่วันนี้เราไม่ได้ไปเจาะเรื่องฮอร์โมนไข่ เราจะคุยเรื่องของเปลือกไข่แต่ที่แน่ๆในฮอร์โมนไข่ก็มีองค์ประกอบของเปลือก ในเปลือกสมมุติว่ากินเอาไปทำอาหารเจียวเสร็จ ทำอะไรเสร็จ เอาเปลือกมาทำปุ๋ยนอกจากเปลือกแล้วหลายคนเขารู้ว่าได้แคลเซียม แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แคลเซียมอย่างเดียว เคยเอาเปลือกไข่มาบี้แล้วฉีกดูไหม นอกจากเปลือกไข่มีแคลเซียมที่มีแผ่นแข็ง ข้างในยังมีเยื่อบุ เบื่อบุตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรตีน โปรตีนอยู่ในไข่ขาว ไม่ได้อยู่ในไข่แดง ไข่แดงมีวิตามิน เพราะฉะนั้นเวลาเราเอาเปลือกไข่ไปโรยรอบโคนต้น บางคนก็บอกว่า เปลือกไข่ช่วยไล่มดได้ด้วย อันนี้จริงหรือป่าวก็ลองไปทำดู เอาเปลือกไข่มาหมักกับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก หรือใช้ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ก็ได้ ถ้าเรามีเปลือกไข่เยอะๆ หมักไปพร้อมกัน จะทำให้ผลมะม่วงไม่แตก ลำไย ลองกอง ผลไม่แตก เพราะว่าแคลเซียมจากเปลือกไข่จะช่วยในเรื่องของการผสานเซลล์ มิหนำซ้ำแล้วตัวเปลือกไข่ยังมีโปรตีน โปรตีนก็แตกตัวออกมาเป็นตัวพวกแอมโมเนีย ไนไตรท์ ไนเตรทและกลุ่มของพวกอะมิโนคือได้ทั้งไนโตรเจนและกรดอะมิโนด้วย เพราะฉะนั้นประโยชน์ของเปลือกไข่เวลาเอามาปลูกพืชไร่ไม้ผลกินกันเองในครัวเรือน เราอาจจะประหยัดเรื่องของการซื้อปุ๋ย ซื้อฮอร์โมนมาใช้ เพื่อนๆลองเอามาใช้ดูนะครับ 1 ต้น สำหรับพวกมะเขือเทศ หรือในแปลงผักอาจจะใส่สักประมาณ ถ้ามีเปลือกไข่ไม่ใช้แล้ว เราอาจจะมาโรยสัก 4-5 ฟอง ต่อมะเขือเทศ 1 ต้น ยิ่งบี้หรือตำให้ละเอียดก็จะยิ่งดีถ้าในแปลงผักโรยให้ทั่วแปลง แล้วเขาจะปล่อยตัวกลุ่มของพวกกรดอะมิโน กรดอะมิโนนี่ไม่ใช้พวกเทสอิลิเมน พวกเหล็ก ทองแดง แมงกานีส เปลือกไข่จะได้เฉพาะพวกแคลเซียม ได้ไนโตรเจนบางส่วน ไนโตรเจนมาจากไข่เยื่อบางๆสีขาวที่เป็นกลุ่มโปรตีน ที่แตกตัวเป็นแอมโมเนีย ไนไตรท์ ไนเตรท ไนโตรเจน ตามวัฎจักรหรือองค์กรของเขา แต่ที่แน่ๆคือได้กรดอะมิโน กรดอะมิโนความจริงแล้วต้องใส่ภูไมท์ซัลเฟต เพื่อให้ได้กำมะถันเพื่อให้ได้ซิทีน ซิเทอีน เมไทโอนีน หรือต้องไปเอาน้ำมันปลา ไปเอาหมักนู่นหมักนี่กว่าจะได้กรดอะมิโน อันนี้ได้ง่ายๆจากการใช้เปลือกไข่ เวลาเขามีงานบุญ งานบวช งานอะไรที่เขาใช้ไข่เยอะๆ ทำฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เปลือกไข่ก็จะมีประโยชน์มากแต่คนละเรื่องกันกับฮอร์โมนไข่ ฮอร์โมนไข่จะต้องใช้ไข่ทั้งฟอง คือต้องใช้ไข่ขาวไข่แดง เปลือกไข่ตำทั้งเปลือกเลย การใช้เปลือกไข่คิดว่าการใช้สิ่งง่ายๆใกล้ตัว การใช้ฮอร์โมนไข่นำไปราดทางดินฉีดทางใบ เพื่อควบคุมปริมาณไนโตรเจนให้น้อย เพิ่มคาร์บอนให้มากขึ้น ใครที่ปลูกไม้ผล ลองกอง ลำไย มังคุด ทุกชนิด แล้วยังไม่มีดอกให้กิน ลองมาคุยกับเจ้าหน้าที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ไทยกรีนอะโกรเรา หรือปลูกแล้วไม่งามดินแน่นแข็ง ลองเอาสูตรเปลือกไข่ใช้แล้วลองเอามาใส่โคนต้นอาจจะร่วมกับตัวภูไมท์ซัลเฟต จะร่วมกับตัวปุ๋ยอินทรีย์ของไทยกรีนอะโกร หรืออะไรต่างๆตัวช่วยของไทยกรีนอะโกรเราก็เพื่อให้นักธุรกิจเกษตรเป็นหลัก คือคนที่ทำเยอะๆ แต่ถ้าเพื่อนๆมาอ่านในเว็ปไซต์ไทยกรีนอะโกรจะรู้เลยว่าถ้าท่านทำกินเองไม่ต้องเสียเงินซื้อเลยแม้แต่บาทเดียว ท่านอ่านเยอะๆในเว็ปไซต์ คุยเยอะๆกับพวกเรารับรองว่าทำกินกันเองในครัวเรือนเพื่อนๆไม่ต้องใช้เงินซื้อปัจจัยการผลิตแม้แต่บาทเดียว เพราะมีของดี ของฟรี ไม่ต้องเสียตังแต่ท่านต้องทำเอง แต่คนที่ทำเป็นเชิงเดี่ยว ปลูกข้าวเป็น 5 ไร่ 10 ไร่ 100 ไร่ อันนี้มันต้องมีตัวช่วยก็จะมาใช้บริการพวกเราไทยกรีนอะโกรได้
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com