สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ เกษตร ทุกท่านครับ เข้าสู่ช่วงหน้าฝนทีไร นักเลี้ยงปลาอย่างเราๆ ก็ต้องเจอกับสารพัดปัญหาที่มากับน้ำฝน ทั้งน้ำเปลี่ยนสี ค่า pH สวิง ปลาป่วยง่าย ออกซิเจนต่ำ วันนี้ผมมีแนวทางง่ายๆ สไตล์ไทยกรีน ที่ทำตามได้จริง แถมยังสอดแทรกเคล็ดวิชาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้การเลี้ยงปลานิลในบ่อดินของพี่ๆ ผ่านพ้นฤดูฝนไปได้อย่างสบายๆ เลยครับ
ปัญหาที่ต้องเจอเมื่อฝนมา ช่วงหน้าฝนเนี่ย
น้ำฝนที่ตกลงมาจะพัดพาเอาสิ่งสกปรกและความเป็นกรดจากพื้นดินรอบๆ บ่อลงสู่บ่อปลาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาหลักๆ ที่เป็นอันตรายต่อปลานิลของเราครับ
ค่า pH เปลี่ยนแปลงเร็ว (ความเป็นกรด-ด่าง) การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้ปลาเครียด ภูมิต้านทานลดลง
ออกซิเจนในน้ำลดลง น้ำฝนมีอุณหภูมิต่ำกว่าน้ำในบ่อ ทำให้การละลายของออกซิเจนลดลง และน้ำขุ่น
ของเสียและแก๊สพิษสะสม เมื่อปลาเครียด กินอาหารน้อยลง อาหารที่เหลือก็จะเน่าเสียที่ก้นบ่อ เกิดเป็นแอมโมเนีย ไนไตรต์ หรือแม้แต่แก๊สไข่เน่า (ไฮโดรเจนซัลไฟด์)
โรคระบาดง่าย เมื่อปลาอ่อนแอจากความเครียดและคุณภาพน้ำแย่ ก็จะป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้ง่าย เช่น โรคจุดขาว หรือโรคเหงือกอักเสบ
การจัดการบ่อปลาหน้าฝนแบบง่ายๆ ที่ได้ผลจริง
พี่ๆ เพื่อนๆ สามารถปรับการดูแลบ่อปลาตามวิธีเหล่านี้ได้เลยครับ
1. การควบคุมการให้อาหาร
ลดปริมาณอาหาร หรืออาจจะ งดอาหาร ไปเลยถ้าฝนตกหนักติดกันหลายวัน เพราะปลากินอาหารน้อยลงอยู่แล้ว ถ้าให้มากเกินไป อาหารจะเหลือเน่าเสีย เป็นการเพิ่มของเสียในบ่อโดยไม่จำเป็น
2. เพิ่มออกซิเจน
ถ้าเป็นไปได้ ให้เปิดเครื่องตีน้ำ หรือเครื่องพ่นอากาศ อย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่มีฝนตก หรือหลังฝนหยุดใหม่ๆ เพราะการทำให้น้ำเคลื่อนไหวจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำได้ครับ
3. การปรับสมดุลน้ำและดินด้วยตัวช่วยเด็ด
เรื่องการเปลี่ยนแปลงของ ค่า pH ที่เป็นหัวใจสำคัญ เราสามารถใช้ สเม็คไทต์ มาช่วยจัดการได้เลยครับ สเม็คไทต์ นี่แหละตัวช่วยชั้นยอดในการรับมือกับความแปรปรวนของน้ำช่วงหน้าฝน เพราะมีคุณสมบัติทาง วิชาการ ที่เรียกว่า "บัฟเฟอร์" (Buffer) ช่วย รักษาความสมดุลของ pH ในดินและน้ำในบ่อไม่ให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกินไป ทำให้ปลานิลของเราไม่เครียดจากค่า pH ที่สวิงฉับพลัน
นอกจากนี้ สเม็คไทต์ยัง:
จับแอมโมเนีย ได้ทันที ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดไนไตรต์และไนเตรต ลดความเสี่ยงปลาป่วยจากแก๊สพิษ
ช่วยให้น้ำใสเร็วขึ้น
มี ซิลิก้าที่ละลายน้ำได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในน้ำอย่าง ไรแดง และ เบนโธส ให้เจริญเติบโตได้ดี จนเกิดเป็น ห่วงโซ่อาหารธรรมชาติ ที่พื้นบ่อ ทำให้ปลานิลได้กินอาหารเสริมจากธรรมชาติอีกด้วย
วิธีใช้: พี่ๆ เพื่อนๆ สามารถใช้ สเม็คไทต์ โรยลงในบ่อในอัตรา 20 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ไร่ ตามคำแนะนำเลยครับ
4. ป้องกันและรักษาโรค
เมื่อคุณภาพน้ำดี ปลาแข็งแรง โอกาสเป็นโรคก็น้อยลง แต่ถ้าพบปลาเริ่มมีอาการป่วย การใช้ปูนขาวหรือเกลือแกงตามอัตราส่วนที่เหมาะสม (แต่ ห้ามใส่ปูนขาวพร้อมกับเกลือแกง นะครับ) ก็ยังเป็นวิธีที่ช่วยลดความเครียดและปรับสภาพน้ำเบื้องต้นได้ครับ
การเลี้ยงปลานิลในช่วงหน้าฝนไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเข้าใจถึงปัญหาและมีแนวทางจัดการที่เหมาะสม การใส่ใจใน คุณภาพน้ำ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ปลานิลของเราอยู่รอดและเติบโตได้ดีตลอดช่วงเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงครับ ขอให้พี่ๆ เพื่อนๆ เกษตรทุกคนประสบความสำเร็จกับการเลี้ยงปลาในฤดูฝนนี้ครับ!
หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถกดไปที่ลิงค์นี้ได้เลยครับhttps://thaigreenagro.com/ Line officl : @thaigreenagro , โทรศัพท์ 0-2986-1680, 084-555-4207
บทความโดย
นายสายชล ทองเศรษฐี
ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะไกร
