0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

สนามหญ้าสถานที่ผ่อนคลายสบายตา

สนามหญ้าหลายๆท่านจะคิดว่าเป็นสนามที่มีหญ้าสีเขียว นุ่มสบายเท้าและเป็นสถานที่ที่หลายๆครอบครัวนำมาใช้เพื่อเป็นช่วงเวลาครอบครัวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้สนามหญ้ายังมีบทบาทที่สำคัญต่อระบบนิเวศ เนื่องจากผืนหญ้าช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน หรือจะช่วยในเรื่องการยึดหน้าดินป้องกันชะล้างพังทลายของดินและยังช่วยกักเก็บน้ำในดินและยังเป็นระบบนิเวศขนาดหย่อมให้กับสัตว์ขนาดเล็กและแมลงต่างๆซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ
ดังนั้นการดูแลรักษาสนามหญ้าอย่างถูกวิธีจึงจำเป็นโดยหญ้าที่คนนิยมนำมาทำเป็นสนามหญ้า ได้แก่

1.หญ้านวลน้อย (Manila Grass): เป็นหญ้าพื้นเมืองของไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งได้ดี ทนต่อการเหยียบย่ำ เจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด ดูแลง่าย และมีราคาไม่แพง

2.หญ้ามาเลเซีย (Tropical Carpet Grass): เป็นหญ้าที่มีใบใหญ่ สีเขียวเข้ม สวยงาม เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร หรือมีร่มเงา ทนต่อสภาพอากาศ และต้องการน้ำปานกลาง

3.หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawn Grass): มีลักษณะใบเล็กละเอียด สีเขียวเข้ม แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ ใบกว้างและใบกลม ชนิดใบกลมเป็นที่นิยมมากกว่าเนื่องจากมีความสวยงามและนุ่มเท้า แต่ต้องการการดูแลตัดแต่งมากกว่า

4.หญ้าเบอร์มิวด้า (Bermuda Grass): เป็นหญ้าที่มีความทนทานต่อการเหยียบย่ำสูงมาก ทนต่อแสงแดดจัด แต่ต้องการการดูแลตัดแต่งบ่อย และไม่เหมาะกับพื้นที่ร่มเงา มักใช้ในสนามกีฬา สนามกอล์ฟ

5.หญ้าพาสพาลัม (Paspalum Grass): เป็นหญ้าที่มีใบสีเขียวเข้ม ปลายใบมน มีความนุ่มนวล ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี ทนต่อสภาพอากาศและดินได้หลากหลาย แต่มีราคาค่อนข้างสูง

6.หญ้าไทเป (Broadleaf Carpet Grass): มีลักษณะคล้ายหญ้ามาเลเซีย แต่ใบเล็กกว่าและหนาแน่นกว่า ไม่จำเป็นต้องตัดบ่อย ทนต่อสภาพดินและน้ำขังได้ดี

โดยการดูแลสนามหญ้านั้นมีขั้นตอนดูแลที่ง่ายดายเพียงแค่ต้องใส่ใจในการดูแล หากสีหญ้ามีสีเขียวซีด ไม่สวย สามารถใช้TGA-อะมิโนในการช่วยให้ใบมีการสังเคราะห์ได้มากขึ้น สีเขียวสดใสสบายตาโดยอัตราการใช้จะอยู่ที่ 10-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร หรือหากใครทำเกี่ยวกับสนามกอล์ฟอาจจะเจอปัญหาดินแน่นแข็ง น้ำไม่ระบายส่งผลให้เกิดน้ำขังก็สามารถใช้สารละลานดินดานควบคู่กับโพแทสเซียมฮิวเมท ซึ่งจะเข้าไปปรับสภาพดินที่แน่นแข็งให้เริ่มมีความนุ่มน้ำและอากาศเข้าไปได้ดีมากขึ้นส่งผลให้เป็นดินร่วนซุยและเพิ่มธาตุอาหารให้ดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นโดยอัตราการใช้สารละลายดินดานจะอยู่ที่ 10-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร และ โพแทสเซียมฮิวเมท 5-10 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หากใช้ทั้งสามตัวที่กล่าวมาสนามหญ้าหน้าบ้านหรือสนามกอล์ฟนั้นก็จะได้หญ้าที่มีสีสันน่ามอง รู้สึกสบายเวลาที่ได้สัมผัสและยังได้ทิวทัศน์และบรรยากาศในการทำกิจกรรมได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษ ติดต่อสอบถามได้ที่ https://thaigreenagro.com/
บทความโดย นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร
ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด

×