กสิกรแข็งขันเป็นกระดูกสันหลังของชาติท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินบทเพลงนี้ซึ่งบ่งบอกให้ทราบว่าไม่ว่าจะกี่ปีกี่รุ่นคนไทยเราก็ยังยึดอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ต่อให้มีระบบโรงงานอุตสาหกรรมหรือวิวัฒนาการก้าวไปไกลแค่ไหนแต่อาชีพการทำเกษตรไม่เคยหายไปจากคนไทยเลย
วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าประสบการณ์ทำการเกษตรของคุณลุงพงษ์ศักดิ์ศรีนาค เกษตรกร หมู่11 ต.ยางว้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เป็นเกษตรกรปลูกมะเขือเปราะคุณลุงพงษ์ศักดิ์ หรือเรียกสั้นว่าลุงสัก คุณลุงทำมะเขือ 2 ไร่ ทำมาประมาณ 5 ปีคุณลุงเล่าให้ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษฟังว่าการปลูกมะเขือเปราะที่จะได้ผลดีต้องมีความพยายามและเอาใจใส่ทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การเลือกพันธุ์มะเขือ ของคุณลุงจะเลือกพันธุ์เจ้าพระยาเป็นพันธุ์ดั้งเดิมซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีความทนต่อโรคและได้รับความต้องการของตลาดสูงลักษณะของมะเขือเปราะจะเป็นสีเขียวอ่อนมีริ้วๆสีขาวเนื้อจะกรอบ รสชาติหวานปนขมเล็กน้อย คุณลุงสักจะซื้อเป็นแบบต้นกล้ามาวิธีการเตรียมปลูกก็ง่ายๆค่ะคุณลุงเล่าว่าแบ่งพืชที่เป็นแปลงเป็นร่องๆโดยแบ่งร่องละประมาณ
3 เมตรเว้น 1
เมตรเพื่อขุดเป็นคันคูน้ำเพื่อวางแผนเรื่องระบบการจัดการน้ำไม่น้ำขาดช่วงฤดูการทำสวนมะเขือหลังจากขุดเรียบร้อยจะมาสู้ขั้นตอนการเตรียมดิน
คุณลุงจะนำปุ๋ยคอกผสมกับพูมิชซัลเฟอร์(กลุ่มหินแร่ภูเขาไฟ)และเพิ่มตัวอินดิวเซอร์(ไตรโครเดอร์ม่า)
ทิ้งไว้ประมาณ 4-5 วันหลังจากนั้นจะนำมารองก้นหลุมสำหรับเตรียมปลูกมะเขือเปราะ
เมื่อนำมะเขือเปราะลงปลูกให้รดน้ำทุกวันและช่วงออกดอกติดผลต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
มะเขือเปราะจะมีระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต 45-60 วัน
คุณลุงสักจะวางแผนการปลูกเพื่อให้มีผลผลิตออกทุกวันเพื่อให้มีรายได้ตลอดปีการเพาะปลูกก็ว่าได้
คุณลุงสักให้ข้อมูลว่าราคามะเขือเปราะสูงสุดเคยได้ราคากิโลละ 22
บาทวันหนึ่งคุณลุงเก็บได้ประมาณ 300 กิโลต่อวันเฉลี่ยวันละ 6,600
บาทนับว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ได้ดีหากมีการวางแผนการปลูกที่ดีค่ะ
โรคส่วนใหญ่ที่คุณลุงพบเจอในมะเขือเปราะ
คือ เชื่อรา หนอน เพลี้ย คุณลุงเล่าให้ฟังว่าหมดเงินกับการใช้สารเคมีต่างๆมามากมายแต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดเสียที่จนมาเจอทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษเข้ามาส่งเสริมการตลาดมาแนะนำผลิตภัณฑ์กลุ่มหินแร่ภูเขาไฟพูมิชซัลเฟอร์(ช่วยในเรื่อสร้างความแข็งแรงให้กับพืชทำให้พืชมีภูมิต้านทานต่อโรคมากขึ้น)และไทเกอร์เฮิร์บ(ช่วยในเรื่องการคลุมไข่จากผีเสื้อกลางคืน)
คุณลุงสักเล่าถึงความแตกต่างหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ 2
ตัวนี้พวกแมลงและโรคต่างๆไม่ค่อยมีทำให้ลดต้นทุนการซื้อยาได้เยอะเลยที่เดียว คุณลุงจึงมั่นใจและใช้ผลิตภัณฑ์ตราใบไม้ลายธงชาติมาจนถึงปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของชมรมเกษตรปลอดสารพิษเลยก็ว่าได้ค่ะ
สำหรับเกษตรกรท่านใดสนใจหรืออย่างได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามเพิ่มเติมที่
02-98616680-2 หรือผู้เขียนพรพรรณ
ยิ้มสาระ (ฝ่ายส่งเสริมการตลาดส่วนกลาง)084-5554210 Hotline สายด่วน084-5554205- 09 หรือ@thaigreenago เสนอติชมได้ที่ Email
: thaigreenago@gmail.com
