0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

ป้องกันกำจัด โรคเส้นดำ (Black Stripe) ในยางพารา

ในช่วงฝนตกแบบนี้ ชาวสวนยางพาราคงมีความกังวลใจกับโรคที่จะมากับฝน และยิ่งลำบากกันเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะจำนวนวันกรีดก็จะน้อยลงไปด้วย โรคที่เกิดขึ้นบ่อยของยางพาราคือ โรคเส้นดำ (Black Stripe) เป็นโรคทางลำต้นของยางพาราที่มีความสำคัญ เนื่องจากทำลายหน้ากรีดซึ่งเป็นบริเวณเก็บเกี่ยวน้ำยาง เมื่อเกิดโรคขึ้นแล้วจะไม่สามารถกรีดยางต้นนั้นได้ จนกว่าแผลที่หน้ายางจะหายดี  ถ้าอาการรุนแรงจะไม่สามารถกรีดยางซ้ำบนหน้ากรีดเดิมได้อีก ทำให้ระยะเวลาการให้ผลผลิตยางสั้นลง โรคเส้นดำ (Black Stripe)  เกิดจากเชื้อรา Phytophthora  botryosa และ P. palmivoraเชื้อราจะเข้าทำลายได้เฉพาะบริเวณเปลือกยางที่มีบาดแผลเท่านั้น ลักษณะอาการจะทำให้บริเวณหน้ายางที่ผ่านการกรีดมาแล้ว จะมีลักษณะเป็นรอยช้ำ ต่อมาจะกลายเป็นรอยบุ๋มสีดำหรือสีน้ำตาลดำตามแนวยาวของลำต้น เมื่อเฉือนเปลือกบริเวณรอยบุ๋มสีดำจะเห็นลายเส้นสีดำบนเนื้อไม้ยาง และอาจลุกลามลงใต้รอยกรีด ถ้าอาการรุนแรง เปลือกยางบริเวณที่เป็นโรคจะปริเน่า มีน้ำยางไหล เปลือกเน่าหลุดออกมา    การป้องกันและกำจัดโรคเส้นดำ (Black Stripe) ในยางพารา ชาวสวนผู้ปลูกยางพาราควรตัดแต่งกิ่งยางและกำจัดวัชพืชในสวนยางให้โปร่ง ให้อากาศถ่ายเทสะดวก และไม่ควรปลูกพืชอาศัยที่ก่อให้เกิดเชื้อราหลีกเลี่ยงการเปิดกรีดยางในระหว่างฤดูฝน หากเป็นช่วงที่มีฝน อย่ากรีดหน้ายางลึกจนถึงเนื้อไม้ เพราะจะทำให้หน้ายางเสียหายและเชื้อเข้าทำลายได้ง่าย ควรปรับปรุงบำรุงดิน เสริมความแข็งแรงให้ต้นยางพารา ด้วยการหมั่นเติมอินทรีย์วัตถุปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกเพื่อให้ดินนุ่มโปร่งร่วนซุยและใส่พวกกลุ่มหินแร่ภูเขาไฟ เช่น ภูไมท์ , ภูไมท์ซัลเฟต , พูมิช ,พูมิชซัลเฟอร์ กลุ่มหินแร่ภูเขาไฟพวกนี้จะช่วยเพิ่มซิลิก้าในดินให้อยู่ในรูปที่พืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งซิลิก้าถ้าพืชดูดขึ้นไปใช้จะตกผลึกที่เซลล์ในส่วนต่างๆของต้นพืชจะทำให้เซลล์พืชแข็ง ทนต่อการเข้าทำลายของโรคแมลงไรราประหยัดค่าใช้จ่ายในการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงและสารกำจัดโรคพืชต่างๆและยังช่วยทำให้ดินร่วนซุย ดินซึมผ่านน้ำได้ง่าย ดินระบายน้ำได้ดีขึ้น แก้ดินที่เหนียวจัด แก้ดินดาน แก้ดินแน่นแข็ง ก็จะลดการเข้าเข้าทำลายของโรคเส้นดำ (Black Stripe) ได้ในระดับหนึ่ง จากนั้นให้ฉีดอินดิวเซอร์ (ไตรโคเดอร์ม่า)กับไบโอเซ็นเซอร์(บาซิลลัส ซับธิลิส)ทั้งสองตัวมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อราโดยให้ใช้ในอัตรา50กรัมต่อน้ำ20ลิตร ฉีดพ่นให้ครอบคลุมทั้งสวนยางพารา ให้ฉีดพ่นทุกๆ7วันครั้ง ควรฉีดตอนแดดอ่อนๆ ช่วงเช้าตรู่ หรือตอนเย็น เพราะอินดิวเซอร์ (ไตรโคเดอร์ม่า)กับไบโอเซ็นเซอร์(บาซิลลัส ซับธิลิส)เป็นจุลินทรีย์ จะถูดแสงแดดทำลายได้ง่าย ไม่ควรผสมพร้อมกับยาฆ่าแมลง เพราะยาจะกินกัน ทำให้ลดทอนประสิทธิภาพ ถ้าพบระบาดมาก ควรฉีดพ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง ใน 3-4 วัน โดยใช้อัตราส่วนผสมเท่าเดิม       

   ผู้เขียนขอแนะนำเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะนำเชื้อ อินดิวเซอร์ (ไตรโคเดอร์ม่า)กับไบโอเซ็นเซอร์(บาซิลลัส ซับธิลิส)ไปผสมกับน้ำฉีดพ่น ขอแนะนำให้ใช้ ม้อยเจอร์แพล้นท์(สารเปียกใบ) เติมผสมกับน้ำก่อน โดยใช้อัตรา 10 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร  แล้วจึงค่อยนำเชื้อ อินดิวเซอร์ (ไตรโคเดอร์ม่า)กับไบโอเซ็นเซอร์(บาซิลลัส ซับธิลิส)ใส่ลงไปแล้วกวนผสมให้เข้ากัน ประสิทธิภาพของม้อยเจอร์แพล้นท์(สารเปียกใบ)ทำให้เชื้อ อินดิวเซอร์ (ไตรโคเดอร์ม่า)กับไบโอเซ็นเซอร์(บาซิลลัส ซับธิลิส)ทำงานและมีประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าทำลายโรคเส้นดำ (Black Stripe)ได้ดียิ่งขึ้น

Line Official: https://lin.ee/3M1NXzf
ช่อง Youtube: https://bit.ly/3o1LAhK
เพจ Facebook: Thai Green Agro
Call Center: 084-5554205-9
ฝ่ายวิชาการ : 02-9861680-2
ไอดีไลน์: tga001-tga004
เว็บไซต์: www.thaigreenagro.com

×