0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

ปุ๋ยอินทรีย์: ขุมทรัพย์จากธรรมชาติ พลิกฟื้นดินไทยให้สมบูรณ์ ยั่งยืน

สวัสดีพี่ๆเกษตรกรทุกท่านเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล" กันบ้างไหมครับ เป็นภูมิปัญญาไทยที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของมูลสัตว์ในภาคเกษตรกรรมมาอย่างยาวนาน แต่ในยุคปัจจุบันที่ภาคเกษตรไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความเสื่อมโทรมของดินและการพึ่งพาสารเคมีมากเกินไป การกลับมาให้ความสำคัญกับ "ปุ๋ยอินทรีย์" จึงเป็นทางออกที่สำคัญและยั่งยืน

มูลสัตว์... มหัศจรรย์แห่งการบำรุงดิน

มูลสัตว์ไม่ว่าจะเป็น ขี้หมู ขี้วัว ขี้ไก่ หรือแม้แต่มูลจากสัตว์ชนิดอื่นๆ ล้วนอุดมไปด้วยธาตุอาหารและอินทรียวัตถุที่มีประโยชน์ต่อดินอย่างมหาศาล มูลสัตว์ที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายและหมักอย่างเหมาะสม จะกลายเป็น "ปุ๋ยอินทรีย์" ชั้นดี ที่ทำหน้าที่มากกว่าแค่การให้ธาตุอาหารพืช แต่ยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน:ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ดินที่เป็นประโยชน์ทำให้ดินมีชีวิตชีวาและอุดมสมบูรณ์ สร้างช่องว่างอากาศในดิน: อินทรียวัตถุช่วยให้ดินร่วนซุย เกิดช่องว่างอากาศ ทำให้รากพืชสามารถหายใจและเจริญเติบโตได้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการเก็บธาตุอาหารและอุ้มน้ำ: ดินที่มีอินทรียวัตถุสูงจะสามารถกักเก็บธาตุอาหารและน้ำไว้ได้ดีขึ้น ทำให้พืชได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและทนทานต่อสภาพแล้งได้ดีขึ้น ส่งเสริมการดูดซึมอาหารของพืช: เมื่อดินมีโครงสร้างที่ดีและธาตุอาหารครบถ้วนพืชก็สามารถดูดซึมอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตแข็งแรงให้ผลผลิตสูง ปุ๋ยอินทรีย์ตราทีจีเอ: ทางเลือกเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืนของไทย ในฐานะผมที่เป็นเกษตรกรยุคใหม่ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการเกษตรที่ยั่งยืน "ปุ๋ยอินทรีย์ตราทีจีเอ" จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรไทย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและประโยชน์นานัปการต่อพืชและดิน คุณสมบัติและประโยชน์ของปุ๋ยอินทรีย์ตราทีจีเอ:เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน: ช่วยให้ดินกลับมามีชีวิตชีวาเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในระยะยาว ลดการพึ่งพาสารเคมี สร้างช่องว่างอากาศในดิน: ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีรากพืชไม่เน่าเสีย ช่วยให้ดินสามารถเก็บธาตุอาหารและอุ้มน้ำได้มากขึ้น: พืชได้รับธาตุอาหารอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงแล้งก็ยังคงความชุ่มชื้น ส่งผลให้พืชสามารถดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น: พืชเจริญเติบโตแข็งแรงมีภูมิต้านทานโรคและแมลง ผลผลิตมีคุณภาพดีขึ้น เหมาะสมต่อการปลูกพืชทุกชนิด: ไม่ว่าจะเป็นนาข้าว พืชไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ไม้ดอก ไม้ประดับ หรือแม้แต่สนามหญ้าก็สามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตราทีจีเอได้อย่างมีประสิทธิภาพอัตราและวิธีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตราทีจีเอเพื่อให้การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตราทีจีเอเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โปรดศึกษาอัตราและวิธีการใช้ตามชนิดพืชดังต่อไปนี้: นาข้าว ใช่ตอนทำเทือก 300 กก./ไร่ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ช่วงเตรียมดินระหว่างทำเทือก ก่อนหว่านเมล็ดพันธุ์ หรือก่อนปักดำ 1-14 วัน พืชไร่ ใช่ช่วงเตรียมดินหรือพืชอายุ 10-15 วัน 200 กก./ไร่ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ช่วงเตรียมดิน แล้วไถคลุกก่อนปลูกหรือใส่ตามแนวร่องปลูก แล้วพรวนกลบเมื่อพืชอายุ 10-15 วัน ไม้ผล ใช่ไม้ยืนต้น ช่วงต้นฝน 20 กก./ต้น/ปี โรยในบริเวณรอบๆ รัศมีทรงพุ่ม แล้วพรวนกลบ ปาล์มน้ำมันและยางพารา ใช่ช่วงต้นฝน 2 กก./ต้น/ปี โรยในบริเวณรอบๆรัศมีทรงพุ่ม แล้วพรวนกลบ พืชผัก ใช่ช่วงเตรียมดิน 1 กก./ตร.ม. หว่านปุ๋ยอินทรีย์ช่วงเตรียมดินให้ทั่วบริเวณ แล้วไถคลุกปุ๋ยอินทรีย์ก่อนปลูก ไม้ดอกไม้ประดับ ใช่ช่วงเตรียมดิน 1 กก./ตร.ม. หว่านปุ๋ยอินทรีย์ช่วงเตรียมดินให้ทั่วบริเวณ แล้วไถคลุกปุ๋ยอินทรีย์ก่อนปลูกสนามหญ้า ใช่ช่วงเตรียมดิน 1 กก./ตร.ม. โรยปุ๋ยอินทรีย์รองพื้นก่อนปลูกหญ้าให้ทั่วบริเวณปลูก หลังจากต้นหญ้าโตแล้วหว่านปุ๋ยอินทรีย์บำรุงอีกรอบ

ข้อควรระวังเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด: 1.กำจัดวัชพืช: ก่อนใส่ปุ๋ย ควรกำจัดวัชพืชให้หมดเสียก่อนเพื่อป้องกันมิให้วัชพืชมาแย่งใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ใส่ลงไปในดิน

2.ดินต้องมีความชื้น: ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เมื่อดินมีความชื้นอยู่เมื่อใส่ปุ๋ยอินทรีย์ควรกลบในดิน กรณีที่มีการให้น้ำซ้ำ ควรให้น้ำน้อยๆ ก่อนแล้วจึงเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น

3.การจัดเก็บ: ควรเก็บปุ๋ยอินทรีย์ในภาชนะที่ปิดมิดชิดอย่าให้ถูกความร้อน แสงแดด และฝน เพื่อรักษาคุณภาพของปุ๋ย

การเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตราทีจีเอ ไม่ใช่เพียงแค่การบำรุงพืชผล แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพดินที่ดีในระยะยาว สร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมของไทย และทำให้ "ขี้หมูกินหัวขี้วัวกินขี้ไก่กินผล" เป็นความจริงที่จับต้องได้ในทุกพื้นที่การเกษตรของประเทศไทย.

หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถกดไปที่ลิงค์นี้ได้เลยครับhttps://thaigreenagro.com/  Line officl : @thaigreenagro , โทรศัพท์ 0-2986-1680, 084-555-4207        บทความโดย  นายสายชล ทองเศรษฐี ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด

×