0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

ปัญหาทุเรียนผลดก แต่ใบน้อยอนาคตที่น่าห่วง

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องของทุเรียน ซึ่งถือว่าเป็นพืชที่ได้รับการยอมรับ เรียกว่าทำเงินหรือสร้างรายได้ในระดับหนึ่งก็ว่าได้ ในฤดูกาลนี้ เพราะฉะนั้นพืชที่มีผู้คนสนใจมากก็สามารถที่จะดึงดูดให้ทั้งเกษตรกรที่สนใจหรือกลุ่มของแมงเม่าที่ขาดองค์ความรู้ ขาดอะไรต่างๆ ก็คิดว่าการปลูกทุเรียนนั้นน่าจะน่าจะทำได้ไม่ยาก แนวคิดแบบนี้ก็เป็นปัญหาทำให้หลายคนนั้นอาจจะมีหนี้สินล้นท่วมตัวได้เพราะว่าอาชีพเกษตรกรรมนั้นอาจจะแตกต่างจากอาชีพอื่นๆ เรียกว่าทำได้ยากและก็มีปัจจัยผันแปรค่อนข้างสูง จึงเป็นที่มาว่าเราก็ต้องพยายามที่จะมาบอกกล่าวเล่าสู่ให้เพื่อนๆที่สนใจในเรื่องของการเกษตรไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทุเรียนหรือพืชอื่นๆก็ตาม จะต้องมาคอยแลกเปลี่ยน คอยให้คำแนะนำเพื่อไม่ให้มีการผิดพลาดหรือหลงทางหลุดจากกรอบมากเกินไป ก็คิดว่ารายการสบายๆสไตล์มนตรี น่าจะช่วยเพื่อนๆ พี่น้องเกษตรกร ได้บ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเรื่องของเกษตรอินทรีย์เกษตรปลอดสารพิษนั้นถือว่าความรู้ทั้งประสบการณ์ที่เรารณรงค์ส่งเสริมมา 20 กว่าปี รวมถึงองค์ความรู้กับครูบาอาจารย์ กับมหาวิทยาลัยนั้นก็ถือว่ามีความสามารถที่จะไม่ให้เพื่อนๆนั้นเกิดความผิดพลาด ได้เกิน 60-70 เปอร์เซ็น อันนี้ก็ถือว่าเรามาร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาให้ประเทศของเรานั้นเป็นเมืองเกษตรที่รักษาสิ่งแวดล้อมด้วย รักษาสุขภาพตัวเองด้วย ลด ละ เลี่ยง เลิก การใช้สารพิษต่างๆ อย่างน้อยถ้าทำอาชีพเกษตรประสบความสำเร็จในอนาคต อายุ 50-60 ปี ก็ไม่ต้องมาป่วยเป็นมะเร็ง เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เบาหวาน ความดัน สะเก็ดเงินสะเก็ดทอง เหมือนเกษตรกรที่ใช้เคมีในอดีต

                วันนี้เราพูดถึงทุเรียนผลดก แต่ใบน้อย ปัญหานี้มันเป็นปัญหาหรือว่ามันคือฝีมือหรือโอกาสของเกษตรกรที่ทำได้แต่อนาคตนั้นน่าห่วงเดี๋ยวเรามาฟังกัน ทุเรียนตอนนี้ก็ถือว่ากำลังอยู่ในช่วงหน้าทุเรียนหลายคนคงได้ชิมรสชาติของทุเรียนไปบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าเป็นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม มีเยอะให้เลือกหลากหลาย ทั้งชะนีไข่ หมอนทอง เดี๋ยวพอผ่านพฤษภาคมไป ชะนีก็จะน้อยลง เป็นทุเรียนที่เรียกว่าอยู่ในช่วงอร่อยอยู่ในช่วงนี้ แต่ถ้าเป็นทุเรียนที่เจอฝน ทุเรียนที่เจอใบอ่อน รสชาติก็จะเริ่มเพี้ยน มีขม มีไส้ซึม ไส้เน่า เพราะฉะนั้นอยากทานทุเรียนอร่อยๆก็พยายามดูสวนที่มีฝีมือหรือทานทุเรียนตามฤดูกาลที่ตัดแก่เกิน 90% ยิ่งจองมาจากต้นเลยยิ่งดีก็จะมีรสชาติหวาน มัน เข้มข้น และก็อร่อย ช่วงนี้ก็จะรับสายเกี่ยวกับเรื่องของการปรึกษาหารือของทุเรียนพอสมควร โดยเฉพาะพี่น้องภาคใต้ จังหวัดชุมพร ก็จะเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ใช้ปัจจัยการผลิตของชมรมเกษตรปลอดสารพิษ บริษัทไทยกรีนอะโกรจำกัด ของเราค่อนข้างเยอะพอสมควร บางสวนก็ปลูกเพื่อส่งออก โทรมาก็เป็นเรื่องของทุเรียน ตอนนี้ก็คือ ผลดก ผลที่อยู่บนต้นเยอะ แต่ปรากฏว่าใบน้อย การที่ใบน้อยนี่น่าคิดว่าเป็นความตั้งใจหรือเป็นอะไรแต่ที่แน่ๆ มีแม่ครัว แม่ครัวทำหน้าที่ปรุงอาหาร เมื่อใบน้อยหมายความว่าแม่ครัวที่จะปรุงอาหารเลี้ยงผลมีไม่เพียงพอ เมื่อแม่ครัวเลี้ยงอาหารบำรุงผลไม่เพียงพอ ก็มีโอกาสที่ผลผลิตจะมีน้ำหนักเบา ผลผลิตจะน้อย หรือถ้าแย่กว่านั้นแม่ครัวไม่มีวัสดุ ไม่มีปลา ไม่มีกุ้ง ไม่มีเครื่องแกง ไม่มีอะไรปรุงซ้ำเติมเข้าไปด้วย คือมีแม่ครัวก็น้อยคือใบ แต่เจ้าของสวนไม่ยอมส่งเสบียง ปัจจัยการผลิต ก็คือพวกปุ๋ย ยา ฮอร์โมน บำรุงต่างๆมาด้วยนั่นยิ่งแย่ซ้ำเติมเข้าไปอีกเพราะว่าจะทำให้ทุเรียนนั้น ใบนั้นแม่ครัวก็น้อย ใบน้อย ปุ๋ยก็ไม่มีดึงขึ้นมาปรุงอาหาร ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน ฟ้าปิดอีก แสงไม่พออีก ซ้ำเติมก็คือผลอาจจะหล่นล่วง อันนี้เป็นไปตามช่วงระยะของเขาไม่ว่าจะเป็นช่วงหางแย้ ผลเท่ากับไข่นกกระทา ไข่ไก่ ไข่ห่าน อะไรก็ว่าไป ทีนี้มาดูว่ามันเป็นความตั้งใจหรือเปล่า ก่อนหน้านี้ไปกดใบอ่อนไว้มากเกินไป หรือ ในช่วงแรกๆมีการสร้างใบอ่อน ใบเพสลาด เพียงแค่รุ่นเดียว น้อยเกินไปหรือเปล่า ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ หรือเกษตรกรไปตัดแต่งกิ่ง กิ่ง ก้าน ใบ จนโก๋น คือตัดแต่งกิ่งมากจนเกินความพอดี สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะเกษตรกรมือใหม่ เพราะฉะนั้นจะต้อง ระมัดระวัง เหมือนที่เรียนให้เพื่อนๆ ได้ทราบอยู่ตลอดเวลาว่า การที่ทำให้ใบอ่อน การดูแลบำรุงรักษาใบอ่อนให้สามารถเกิดมาพร้อมที่จะเลี้ยงผลอ่อน เลี้ยงผลเท่ากับไข่ห่านคือมันจะต้องพอดีกัน แต่ถ้าใบอ่อนมาแย่งแข่งกับช่วงเกิดดอก เกิดผลอ่อนระยะดอกบาน มาพร้อมกัน ใบของทุเรียนมาแย่งสารอาหารจากผล อันนี้กรณีที่เราเคยคุยกันถ้าใบอ่อนเกิดช่วงนี้ก็จะแย่งอาหาร ดอกก็พิการ เบี้ยว เล็ก หลุดร่วง ก็จะทำให้เกษตรกร จะระมัดระวัง บางทีก็ใช้ปุ๋ยพวกโมโนโพแทสเซียมฟอสเฟต คือ 0-52-34 , 8-24-24 , หรือใช้พวกไทยโอยูเรียพวกอะไรต่างๆ กดใบ กดมากเกินไปเวลาติดดอก ออกผล ใบบางทีก็ชุดใหม่มีไม่พอ หรือที่แย่คือใบจะถูกทำลายโดยโรคพืช ไม่ว่าจะเป็นพวกไฟทอปธอร่า ไรซอปโทเนีย ฟิวซาเรียมอะไรก็ว่าไป ก็ทำให้ใบเกิดอาการเหลืองหลุดล่วง ผลที่มีการสร้างเมล็ดภายในอย่างสมบูรณ์ก็อาจจะแข็งแรง ยังอยู่รอด ปลอดภัย แต่ข้อเสียก็คือแทนที่จะได้ผลขนาดลูก 3 โล 4 โล หรือ 5 โล ถ้าท่านไว้ผลไม่เกินพลังหรือกำลังของต้นแม่อย่างน้อยขนาดของผลอยู่ที่ประมาณ 3 โล เรื่องขนาด น้ำหนัก ของผล ก็มีส่วนสำคัญ แต่ทำไมถึงน่าห่วงในระยะยาว ดังหัวข้อที่เราได้พูดคุย เพราะว่าถ้าดูแล ใส่ปุ๋ย รดน้ำ ทุเรียนถือว่าเป็นพืชที่จะต้องดูแล บริหาร จัดการเรื่องน้ำอย่างเปะๆ และเพียงพอ คือช่วงที่ระยะต้องให้น้ำไม่ว่าจะเป็นช่วงบำรุงผลอ่อน บำรุงช่อดอก น้ำต้องพอเหมาะพอดี มากไปก็ทำให้เกิดใบอ่อน มากไปก็กลีบดอกหล่นล่วงอีก น้อยไปก็หงิกงอ บิดเบี้ยว ผลทุเรียนยิ่งใหญ่น้ำก็มากตามจำนวน เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่เกษตรกรที่กำลังเข้ามาดู มาปลูกเพื่อที่มาแชร์ตลาด ที่ตอนนี้จีนก็มีการนำเข้าอย่าง เป็นบ้าเป็นหลัง ใช้คำๆนี้หรือบ้าคลั่ง เขาชอบทุเรียนของประเทศไทยค่อนข้างมาก กรณีที่เป็นทุเรียนกินเนื้อ เป็นเทคเจอร์ที่กรอบ อร่อย แต่ถ้าเป็นแบบมูซานคิงส์ เขาจะต้องเป็นแบบแช่เย็นแล้วเนื้อเขาจะเละ ไฟเบอร์จะน้อยกว่าพวกหมอนทอง จะแช่กินแล้วก็เหมือนกินไอศกรีมแล้วก็ดูแล้ว แม้ว่าในลาว กัมพูชา หรือแม้กระทั่งในจีน หรือ เมียนมา มีหลายประเทศรอบบ้านเราปลูกทุเรียนแข่งก็ยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเศรษฐีจีนแค่ 10 % จีนมี 1400 ล้านคน มีเศรษฐีจีน 140 ล้านคน มากกว่าประเทศไทยเกือบ 3 เท่า แต่เป็นเศรษฐีล้วนๆ คนจน 90% นี้ก็ 1000 กว่าล้านคน ก็ยังกินทุเรียน ที่บอกตัวเลขของดีมาน ความต้องการก็เพราะว่าความต้องการสูง แต่การปลูกทุเรียนไม่ง่ายเหมือนปลูกยางพารา หลายคนอาจจะบอกว่าสินค้าเกษตร ไปเชียร์ให้ปลูกกันมาก เดี๋ยวก็จบด้วยราคาที่ถูก เหมือนยางพารา เหมือนปาล์ม เหมือนอินทผลัม เหมือนลำไยอะไรต่างๆ แต่บอกไว้เลยทุเรียนไม่หมู ไม่ง่าย ต้นที่ปลูกมา 5 ปี 10 ปี ก็กระทบแล้งจัด หนาวจัด ก็ตายได้ภายในพริบตา เจอโรครากเน่าโคนเน่า ไฟทอปธอร่าก็ตายได้ง่ายภายในพริบตา ที่สำคัญไม่ได้เป็นพืชทดแทน อย่างยางพารายังมีหญ้าแดนดีเนียม ที่ทางอเมริกาพัฒนาเป็นต้นหญ้าเหมือนต้นหญ้าดอกเหลืองข้างทาง โตเร็ว ขึ้นง่าย คุณภาพในการผลิต มันมีตัวทดแทนรวมถึงยางเทียมจากการผลิตปิโตรเลียมของประเทศค้าน้ำมันทั้งหลาย บางพาราก็ยังเป็นสินค้าทดแทน ถ้าอย่างธรรมชาติสูงอย่างเทียมก็ขายดี ถ้าน้ำมันแพงยางเทียม ยางสังเคราะห์แพง ยางธรรมชาติเราก็ขายดี แต่ทุเรียนบอกกับเพื่อนๆเลยว่าน่าสนใจ และก็ให้ผลผลิตค่อนข้างงดงาม เช่น 1 ต้นเราไว้ 100 ลูก เป็นตัวเลขกลมๆ ลูกละ 3 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท ได้ต้นละ 30000 บาท ปลูก 10 ต้น ก็ 300000 บาทก็ยังมีกำไรเยอะ ถ้าเราใส่ใจทำทุเรียนเราให้มีคุณภาพดี น้ำถ้ามีการทำให้น้ำอยู่บนเนินดินที่เหมาะสมใช้พวกสารอุ้มน้ำโพลิเมอร์เป็นวุ้นที่ยังมีการถ่ายเทระบายอากาศได้ดี ไม่ใช่เป็นน้ำท่วม สารอุ้มน้ำนี้ก็จะทำให้ทุเรียนที่ชอบน้ำมากๆ ให้น้ำอยู่ตลอดเวลาและเหมาะสมไม่ขาด กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลัก รอง เสริมอยู่ตลอดเวลาอย่างเข้าอกเข้าใจ ในระยะเปิดดอก วนไปปุ๋ย 20-4-4 ระยะไข่ไก่เป็นสูตรเสมออะไรก็ว่าไปบวก 0-0-60 ปรับแต่งรสชาติถ้ามานั่งฟังคุยกันบ่อยๆ เพื่อนๆก็จะรู้ข้อมูล เพราะฉะนั้นการที่ทุเรียนมีผลแล้วไม่มีใบมันมาจากการที่เราดูแลตั้งแต่ค่าความเป็นกรดและด่างของดิน pH ของดิน การดูแลบำรุงรักษา การปลูกในปัจจุบันก็เป็นที่ยอมรับว่าในการทำเนินดินประมาณ 3-4 เมตร ไม่ใช่เป็นทรงแหลมสูง ควรต้องเป็นพื้นราบอยู่ด้านบนเนิน สูงประมาณสัก 50 ซม. ที่สำคัญต้องไม่แน่น ดินต้องไม่เหนียว ถ้าท่านรู้ว่าการใช้พวกหินแร่ภูเขาไฟ พวกภูไมท์ซัลเฟต ทำให้ดินโปร่ง ฟู ร่วนซุย การใช้พวกโพแทสเซียมฮิวเมท หรือฮิวมิก หรือการใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ใช้ฟาง ใช้หญ้าปรับปรุง คลุมดิน ดินมันก็จะนุ่ม ทุเรียนถ้าดินแน่นเหนียวหน่อย จะเกิดรากเน่า เมื่อรากเน่า รากขาดอากาศ ก็สะท้อนไปที่ผล บางทีผลก็ก้นยุบ บิดเบี้ยวได้ เพราะฉะนั้นมีความสำคัญอย่างมากที่การปลูกทุเรียนเหมือนเลี้ยงลูกเป็นออทิสติก จะต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด การที่ใบน้อยเพื่อนๆต้องไปดูว่าการสร้างใบอ่อนหลังตัดแต่งกิ่ง หรือตัดแต่งกิ่งมากไปไหม ยับยั้งใบอ่อน Control พวกกลุ่มใบ มากไปไหม ดูแลโรคแมลงศัตรูพืชที่จะทำลายใบมาเลี้ยงในระยะผล ไม่ใช่มองไปบนต้นแล้วภาคภูมิใจ เพื่อนๆมาเยี่ยมมีแต่ลูกทุเรียนไม่มีใบ อันนั้นค่อนข้างเสี่ยงว่าเงินจะหายไปเยอะในผลอาจจะมีเปลือกกับเมล็ด หรือผลแทนที่จะได้ไซด์มาตรฐาน 3 โล อาจจะเหลือ 2 โล เหลือโลครึ่ง เป้นไปได้ทั้งหมดจากการที่ใบซึ่งมีหน้าที่สังเคราะห์แสง ปรุงอาหาร เหมือนแม่ครัว แต่ไม่ใช่ว่าใบมีเพียงพอแล้วแต่ใส่ปุ๋ยไม่ถูก ใส่ตัวหน้าสูงๆ พวกยูเรีย 46-0-0 หรือแอมโมเนียซัลเฟต 21-0-0 หรือ แคลเซียมไนเตรท ใส่หลับหูหลับตาใส่ หรือ ใส่แต่ปุ่ยหมักปุ๋ยคอกอย่างเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องอีก เพราะฉะนั้นการดูแลบำรุงรักษาใส่ปุ่ยให้อาหารทุเรียนให้เพียงพอต่อการเลี้ยงผลของเขาจนเก็บขายเป็นเรื่องที่สำคัญ จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ มีความชำนาญเพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเกษตรกรเองนั้น คือบุคคลสำคัญที่สุดที่จะต้องเรียนรู้ สิ่งที่น่าห่วงอีกอย่างหนึ่งทำไมมันดกมีแต่ผล แต่ถ้าไว้ผลมากเกินกำลัง ต้นก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร หรือใบน้อยผลเยอะ สิ่งที่ห่วงอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นไฮไลท์คืออายุของต้นแม่จะไม่ยืนยาว แทนที่ทุเรียนของเราจะมีอายุ 20 30 40 50 ปี มันจะทำให้มีเวลาไม่เกิน 10 ปีต้นแม่ก็ตายทำให้เราต้องมาเสียเวลา มาปลูกกันอีก  

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปอลดสารพิษ www.thaigreenagro.com

×