กุหลาบเป็นดอกไม้ที่ปลูกกันมาตั้งแต่โบราณ เชื่อกันว่าดอกกุหลาบนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความรักสามารถเป็นได้ทั้งของขวัญ ดอกไม้สำหรับต้อนรับแขกรวมดอกไม้สำหรับงานฉลองต่างๆ แถมยังสามารถนำดอกกุหลาบมาประกอบในอาหาร ขนม เครื่องดื่มเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยกุหลาบนั้นในประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกุหลาบประมาณ 5,500 ไร่ กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศโดยแหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก นครปฐม สมุทรสาคร และ กาญจนบุรี ในการปลูกดอกกุหลาบหลายคนอาจจะมองว่ายากเนื่องจากการดูแลนั้นต้องพิถีพิถันและกุหลาบนั้นไวต่อการเกิดโรค วันนี้ทางเราจะบอกวิธีการปลูกกุหลาบที่ใครๆก็สามารถปลูกได้โดยปลูกกุหลาบสามารถปลูกได้ทั้งแบบกระถางและแบบลงพื้นดิน หากใครที่สนใจจะปลูกลงกระถางสามารถทำได้โดย 1. คัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีมีความต้านทานต่อโรคและแมลง เช่น กุหลาบพันธุ์วาเลนไทน์ อับราฮัม ดาร์บี้ เอแกลนไทน์ แพตออสติน 2. ควรเน้นวัสดุในการปลูกเพื่อให้มีการเจริญเติบโตที่ดี ออกดอกสม่ำเสมอ ดอกดกและสวยงาม กุหลาบนั้นชอบดินที่ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ดังนั้นจึงควรใช้ดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ผสมกับปุ๋ยคอก ขุยมะพร้าว และ แกลบดิน ผสมกับ ภูไมท์ เพื่อดินมีความสมบูรณณ์ ร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศดี โดยใช้อัตราส่วนคือ ดิน ปุ๋ยคอก และ ภูไมท์ อย่างละ1 ส่วน ขุยมะพร้าว แกลบดิน อย่างละ2 ส่วน และขนาดกระถางในการปลูกควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 10-16 นิ้ว เพื่อให้กุหลาบสามารถแตกกิ่งก้าน ขยายพุ่มให้โปร่งออกดอกสวยงาม 3. นำกระถางไปตั้งตรงแดดส่องถึงโดยต้องโดนแดดอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง และกุหลาบนั้นไม่ชอบความแฉะแต่ก็จะขาดไม่ได้จึงรดน้ำแค่ช่วงเช้าประมาณ 1 ลิตรต่อต้น หากอยู่ในช่วงหน้าฝนอาจจะพักการรดน้ำ การให้น้ำกุหลาบนั้นไม่ควรรดในช่วงเย็นเนื่องจากอาจจะเกิดน้ำขังที่ใบและเป็นที่มาของโรค 4. การตัดแต่งกิ่งและใบ วิธีการดูว่ากิ่งไหนไม่ดีและติดโรคสามารถดูได้จากรูปทรงที่ไม่สมบูรณ์เอียง กิ่งแห้ง บางกิ่งอาจจะมีสีเหลืองก่อนกลายเป็นสีดำนั้น และ วิธีการตัดแต่งกิ่งกุหลาบที่ถูกต้องคือ ตัดเหนือกิ่งที่มีใบประกอบอยู่ 5 ใบย่อย และควรเหลือไว้ที่ต้นอย่างน้อย 2 ชุด กุหลาบจะแตกยอดที่ตาแรกถูกตัดเกิดเป็นกิ่งที่สมบูรณ์ และ ใครที่พอจะมีพื้นที่ในบ้านหรือพื้นที่ว่าง ควรมีขนาดแปลง 30x30x30 เซนติเมตรขึ้นไป โดยวัสดุที่ใช้ในการปลูกกุหลาบคือ คือ ดิน ปุ๋ยคอก และ ภูไมท์ อย่างละ1 ส่วน ขุยมะพร้าว แกลบดิน อย่างละ2 ส่วน ซึ่งในแปลงนั้นอาจจะมีการทำโคกขึ้นพูนสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร และ มีการนำหินมาวางเป็นขอบเพราะว่าจะช่วยลดปัญหาการขังของน้ำและไม่ให้ปุ๋ยหรือสารอาหารของดินไหลผ่านและหมั่นพรวนดินทุก 3 เดือนหรือทุกครั้งที่ดินเริ่มแน่น ถ้าผิวดินแน่นน้ำก็จะไหลไปหมดก่อนการซึมลงสู่รากกุหลาบ ทำให้กุหลาบรับน้ำไม่เพียงพอ และการรดน้ำควรน้ำแค่ช่วงเช้าประมาณ 1 ลิตรต่อต้น หากอยู่ในช่วงหน้าฝนอาจจะพักการรดน้ำ การให้น้ำกุหลาบนั้นไม่ควรรดในช่วงเย็นเนื่องจากอาจจะเกิดน้ำขังที่ใบและเป็นที่มาของโรค การตัดแต่งกิ่งและใบ วิธีการดูว่ากิ่งไหนไม่ดีและติดโรคสามารถดูได้จากรูปทรงที่ไม่สมบูรณ์เอียง กิ่งแห้ง บางกิ่งอาจจะมีสีเหลืองก่อนกลายเป็นสีดำนั้น และ วิธีการตัดแต่งกิ่งกุหลาบที่ถูกต้องคือ ตัดเหนือกิ่งที่มีใบประกอบอยู่ 5 ใบย่อย และควรเหลือไว้ที่ต้นอย่างน้อย 2 ชุด กุหลาบจะแตกยอดที่ตาแรกถูกตัดเกิดเป็นกิ่งที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกแบบกระถางหรือแบบแปลงนั้นต้องระวังเรื่องโรคและแมลงที่เกิดในกุหลาบ เช่น โรคใบจุดดำในกุหลาบ โรคราแป้งในกุหลาบ โรคราสนิมในกุหลาบ สามารถใช้ไบโอเซนเซอร์ ป้องกันและกำจัดได้ โดยใช้ 50 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร ผสมให้เข้ากันฉีดพ่นในช่วงเช้าที่มีแดดอ่อนหรือช่วงเย็น และ แมลง เช่น เพลี้ยไฟกุหลาบ แมลงหวี่ขาวในกุหลาบ สามารถใช้ บูเวเรียในการป้องกันและกำจัดได้ โดยใช้ในอัตรา 50 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร ผสมให้เข้ากันฉีดพ่นในช่วงเช้าที่มีแดดอ่อนหรือช่วงเย็น หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษ ติดต่อสอบถามได้ที่ https://thaigreenagro.com/
บทความโดย นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร
ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนโกร จำกัด
Line Official: https://lin.ee/3M1NXzf
ช่อง Youtube: https://youtube.com/@thaigreenagro-tga847
เพจ Facebook: https://www.facebook.com/thaigreenagro?mibextid=LQQJ4d
Call Center: 084-5554205-9
ฝ่ายวิชาการ : 02-9861680-2
เว็บไซต์: www.thaigreenagro.com
Tiktok: https://bit.ly/3vr5zdo
Twitter: https://bit.ly/3q1DwQY
Shopee: https://shp.ee/kh94aiq