0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

ทำไมฉีดเครื่องดื่มชูกำลัง ดอกดกดี

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องของเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มชูกำลังถ้าพูดแบบภาษาชาวบ้านก็พวก M-150 กระทิงแดง คาราบาว ฉลาม เครื่องดื่มชูกำลังพวกนี้ก็คือ ความจริงแล้วก็มีการเอามาใช้กันในช่วงเท่าที่จำได้ก็ตั้งแต่สมัย 30-40 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ยังเด็กๆก็เคยได้ยินเรื่องของการใช้เครื่องดื่มชูกำลังเอามาใช้ในการเกษตรแต่เพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้เป็นที่เปิดเผยเรียกว่าเป็นความลับสูตรใครสูตรมันเวลาใช้ดีแล้วก็ไม่บอกใคร บางคนก็ต้องรีบเอาหลบซ่อน เอาฉลากออก ไปผสมปุ๋ย ยา ฮอร์โมน อื่นๆ เอามาใส่ให้แทน ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราลองเอามาพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย คนที่รู้แล้ว ทราบแล้วก็ไม่เป็นไร เป็นการทบทวน เป็นการที่มาคุยกัน ส่วนคนที่เป็นมือใหม่หัดขับก็จะได้เป็นมุมมองอีกมุมมองหนึ่งที่ว่าการประยุกต์ใช้พวกนี้จะทำยังไง ซึ่งเดี๋ยวเรามาคุยกัน

ในเรื่องของการใช้เครื่องดื่มชูกำลัง ดังที่ได้กระจายขยายความไปแล้ว การใช้ลิโพ M-150 กระทิงแดง ฉลาม หรืออะไรก็ตามที่เป็นเครื่องดื่มชูกำลัง ทำไมใช้กลุ่มพวกนี้แล้วทำให้ดอกดกดี ผมเชื่อว่าคนที่เคยใช้แล้วก็จะสัมผัสได้ แต่ที่ดอกดกดี แต่อาจจะมีก็ได้บางคนใช้แล้วไม่เห็นมีอะไรเลย ใช้แล้วก็งั้นๆ ผมเชื่อว่าก็แน่นอนครับ ทุกอย่างมีด้านบวกแล้วก็ด้านลบ คนที่ใช้แล้วไม่ดีก็ต้องไปดู ว่าเลี้ยงพืชหรือปลูกพืชนั้นเป็นแบบเทวดาเลี้ยงหรือป่าว ปล่อยให้กินตามยะถากรรม ต้นไม่ได้มีความพร้อมใดๆทั้งสิ้น ทิ้งกว้าง พอได้ยินเขาบอกว่าให้ฉีดเครื่องดื่มชูกำลัง ก็ไปเอามาฉีด เทวดาเลี้ยงนี่บางทีมันก็อ้วนเกินไป ผอมเกินไป อ้วนเกินไปก็คือว่า ใส่แต่ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ปุ๋ยยูเรีย มีแต่งามใบ อวบอ้วน อะไรที่มันมีธาตุไนโตรเจนเยอะมันก็ไม่ใช่แบบงามจนใบบิด งามจนใบท่วมต้นไม่ใช่ว่าจะฉีดเครื่องดื่มชูกำลังแล้วมันจะติดดอกออกผล ดอกอาจจะไม่ดกก็ได้เพราะว่าองค์ประกอบหรือความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับเครื่องของการติดดอกออกผลมันมีปัจจัยเยอะแยะมากมาย แล้วก็เราก็ต้องมาดูว่า ทำไมความคิดของพวกนี้จึงมีการใช้พวกเครื่องดื่มชูกำลังทั้งๆที่บริษัทพวกนี้เขาก็ขายดีอยู่แล้วหรือเราต้องการไปช่วยอุดหนุนส่งเสริมให้เครื่องดื่มชูกำลัง ร่ำรวยยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าถ้าเราทำเองเราจะทำอย่างไร เพราะว่าการใช้เครื่องดื่มชูกำลังที่มีความหวาน บางคนที่ใช้แล้วไม่ได้ผลคือใช้น้อยตามแค่เพียง ฝาสองฝา 5 หรือ 10 ซีซี บางทีใช้แล้วช่อดก บางคนก็อยากให้ดีขึ้นไปอีก ใส่ทีเป็นขวดเลย ปัญหาก็จะมีเรื่องของเชื้อรา เพราะความหวานจากน้ำตาลกลูโคสก็จะไปทำราพืชได้ เพราะความหวานเรียกทั้งเพลี้ย ทั้งแมลงและก็โรคพืช โรคพืชก็พวกเชื้อราต่างๆ พวก ไฟทอปธอร่า ฟิวซาเรียม พิเทียม ให้เข้ามาทำลาย เพราะฉะนั้นการใช้พวกเครื่องดื่มชูกำลังก็ถ้าไม่มีความรู้ไม่มีความเข้าใจก็อาจจะเกิดโทษได้เหมือนกัน ทีนี้เมื่อเล่าไปถึงสมัย 30-40 ปีก่อนเขาก็มีการใช้สมัยก่อนเทคโนโลยีข่าวสารการเดินทางสัญจรกรุงเทพไปอยุธยา อ่างทอง เดินทางกันเป็นวันๆ ท่านต้องนึกถึงความเจริญการพัฒนาของประเทศในยุคนั้นด้วย เรียกว่าข้อมูลข่าวสารไม่ทันสมัย ถนนหนทางก็ใช้วิธีการเดิน จักรยาน ถนนก็เป็นถนนหลักๆก็เป็นถนนลูกรัง ก็เป็นเรื่องของเทคโนโลยีความเจริญของบ้านเมืองชาวบ้านเกษตรกรไม่ค่อยได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารอะไรมากมาย นานทีปีหนก็จะมีเซลล์เดินหิ้วกระเป๋า เดินไปตามหมู่บ้านสมัยก่อนคนแปลกหน้าเดินเข้ามาในหมู่บ้าน เด็กๆ คนเฒ่าคนแก่ ก็จะมารุมล้อมรอบฝั่ง มันก็จะมีปุ๋ยชนิดหนึ่งที่เรียกว่าปุ๋ยน้ำตาล คือเม็ดทุกอย่างเหมือนน้ำตาล น้ำตาลในที่นี้หมายความว่าเป็นน้ำตาลทราย จริงๆแล้วคือปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต คือมีลักษณะขาวใสเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนกับเม็ดน้ำตาลบางคนเรียกว่าปุ๋ยหว่าน คือพูดตามความรู้สึก คือมันเหมือนน้ำตาล พอมันละลายน้ำ เอามือก็เย็นๆ และฉีดเข้าไปในพืช จริงๆแล้วปุ๋ยที่ให้ความหวานในช่วงที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวผลผลิต มันคือต้องเป็นกลุ่มของโพแทสเซียมเป็นหลัก หรือการให้น้ำหนักจะต้องเป็นเรื่องของโพแทสเซียม ตัว K แต่ชาวบ้านสมัยก่อนอันนี้พูดจากประสบการณ์เรียกปุ๋ยที่คล้ายๆน้ำตาลว่าเป็นปุ๋ยน้ำตาลและอาจจะไปสอดคล้องกับสมัยก่อนสอดคล้องกับปุ๋ยน้ำตาลจริงๆที่เป็นอีกสเตปหนึ่ง เป็นอีกเจเนอเรชั่นหนึ่ง สมมุติว่าเป็นปุ๋ยเกร็ดแบบปุ๋ยน้ำตาลตอนแรกแล้ว ต่อมามีการใช้ปุ๋ยที่มีลักษณะเหมือนปุ๋ยเกร็ด มีลักษณะเหมือนน้ำตาลทรายมากๆ แต่เป็นคนละตัวกับปุ๋ย 21-0-0 เหมือนตัวแรก ชาวบ้านเรียกตัวนี้ว่าเป็นปุ๋ยน้ำตาลอีกตัวหนึ่ง ทำไมผมถึงพูดว่ามันเหมือนมากๆเลยก็มันคือน้ำตาล แต่ข้างกล่องก็บรรยายสมมุติว่าเป็นแบรนด์จัมโบ้A แล้วเป็นชื่อสามัญว่าเป็นซูโครส ใส่สัดส่วนอะไรต่างๆ ซูโครสคือน้ำตาลทรายที่มีโมเลกุลใหญ่กว่าน้ำตาลกลูโคส โครงสร้างทางเคมีก็จะมีคาร์บอนอยู่ประมาณ 6 ตัว มีน้อยกว่าน้ำตาล มี 4 อยู่ 12 ตัว แต่ถ้าเป็นน้ำตาลกลูโคสที่อยู่ในเครื่องดื่มชูกำลัง จะมีตัวน้ำตาลอยู่แค่ 6 ตัว แต่โมเลกุลเล็กแทรกซึม ทะลุทะลวง ไปในเซลล์พืช เด้งมากกว่าคือนำไปใช้งาน ใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า คือเซลล์คงจะมีบริษัทแม่ที่มีความรู้ มีความเข้าใจว่าการใช้น้ำตาลทรายสามารถ เพิ่มปริมาณคาร์บอนให้มีมากกว่าตัวไนโตรเจน หรือเอาเพิ่มสัดส่วนของ CM ratio คือสัดส่วนของคาร์บอนกับตัวไนโตรเจน เพื่อนๆนึกภาพว่าถ้าตัวไนโตรเจน ใส่ขี้ไก่ ใส่ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกเยอะๆ ไนโตรเจนมันสูง C น้อย เขาเรียก CN ratio แคบ C คือ คาร์บอน ratio คือสัดส่วน CN ratio คือสัดส่วนของคาร์บอน และไนโตรเจน มันชิดเกินไปอาจจะเป็น 28 ต่อ 4 28 ต่อ 6 28 ต่อ 1 อะไรก็ว่าไปแต่ถ้าเติมฉีดน้ำตาลซูโครส ชาวบ้านเรียกปุ๋ยหวานอีกเหมือนกัน แต่ฉีดแล้วจะชิมก็ไม่กล้าชิม ชื่อการค้ามันชื่อซูโครส แล้วทำไมต้องทำอย่างนั้น ต้องตั้งชื่ออย่างนั้น ก็เทคโนโลยีมันไม่มีโทรศัพท์ เมื่อก่อนนี้โทรศัพท์ทางไกลโทรไปต่างจังหวัด ไปกรุงเทพ เสียเงินมหาศาล เสียเงินเยอะมาก เขาเลยใช้ตัวนี้เอามาเป็นตัวทำให้ติดดอกออกผลแล้วเปลี่ยนชื่อ เพราะน้ำตาลทรายสมัยก่อนกิโลกรัมละ 4 บาท 5 บาท แต่พอไปเปลี่ยนชื่อเป็นซูโครส สามารถขายได้ 40-50 บาทได้ จากน้ำตาลโลละ สมัยก่อนนะครับ ปี 2527-2528 ในยุคสมัยนู้น ก็สร้างกำไรเพราะใช้แล้วก็รู้สึกว่าดอกมันติดดอกออกผล โดยเฉพาะพวกพืชตระกูลผัก พวกมะเขือ บวบ มะระ แตงกวา ก็ทดลองกันมา แต่ก็ดังที่เรียนให้ทราบว่าบางคนก็ใช้ได้ผล บางคนก็ไม่ได้ผล ก็เพราะว่าองค์ประกอบพื้นฐาน เลี้ยงพืชให้มีแต่ใบ มีไนโตรเจนมากเกินไป เหมือนเลี้ยงลูกก็เลี้ยงอ้วนเกินไป ผอมเกินไป แคระแกน มันก็ฉีดไม่ได้ตอบสนองเท่าที่ควรอันนี้เป็นเหมือนประสบการณ์ที่เอามาแชร์ให้เพื่อนๆเป็นมุมมองที่ไม่ได้เป็นเนื้อหาสาระเชิงวิชาการแต่พูดจากประสบการณ์ตรง ดังที่ได้ประสบพบเจอในยุคสมัยนั้น ผงชูรสเป็นโมโนโซเดียมกลูตาเมต ก็อาจจะมีพวกวิตามิน พวกอะมิโนบางส่วน แต่ถ้าไปวิเคราะห์จริงๆมันก็ไม่ได้มีประโยชน์เด็ดในเรื่องขงการเป็นปุ๋ย โมโนโซเดียมกลูตาเมตมีเกลือ มีอะไรต่างๆอยู่ในรูปของแร่ธาตุหรือเหลือต่างๆ บอกว่าทำไมไม่มีประโยชน์แล้วทำไมมันดี ไม่เชื่อก็ลองเอาผงชูรสอย่างเดียวไปฉีด หรือเอาผงชูรสกับเครื่องดื่มชูกำลังไปฉีดพืชแล้วไม่ต้องใส่ N P K แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก ทองแดง ใช้แต่ผงชูรสอย่างเดียวไปเลยดูสิว่ามันจะดีแล้วออกดอกไหมก็รับรองได้เลยว่าไม่ได้ดีอย่างนั้นแน่นอน มันก็เหมือนกับเรื่องของตัวฮอร์โมนไข่ ที่ท่านอ.สุวัฒน์ ทรัพยประภา คิดค้นเรื่องฮอร์โมนไข่ สมัยนั้นก็เอามาคุย เอามาให้ทดลอง แลกเปลี่ยนกับท่านอ.ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติที่ตึกจุลชีววิทยา เพราะเน้นในเรื่องของการทำ CN ratio ด้วย แล้วก็พยายามใส่นู่นใส่นี่เพื่อเป็นมูล ก็มีคนเอาไปผสมดัดแปลง เป็นฮอร์โมนไข่นมสด นมแพะ นมแกะ นมวัว ฮอร์โมนบวกอาหารอะไรต่างๆเยอะแยะมากมาย การเอาผงชูรสเข้ามา ถ้าเรารู้แบบวิทยาศาสตร์ก็แบบที่บอก มันไม่ได้ดีเพราะมันเป็นเครื่องดื่มชูกำลังหรือบำรุงกำลัง แต่มันดีที่ว่ามัน ที่ดีในเรื่องของการติดดอกออกผลในรูปของการที่มีน้ำตาล ซึ่งไปทำให้เกิดการสะสมคาร์บอน คาร์บอนไดออกไซด์ ให้เพิ่มขึ้น สูงขึ้น แต่ถ้าฉีดไปยังไงก็ตามแต่มีไนโตรเจนอยู่ในดิน ฝนก็ตก ดินก็เปียก แฉะ ละลายอินทรียวัตถุ ขี้ไก่ ขี้เป็ด ขี้วัว ขี้ควาย พืชมันก็กิน แบบนี้มันก็ไม่ติดดอก เพราะฉะนั้นตัวทั้งผงชูรส ทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง มันก็ต้องมีในเรื่องของเชิงกระตุ้น แต่ถ้าพื้นฐานของต้นไม้นั้นไม่ดีก็ไม่ได้ตอบสนอง ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องรู้จักการประยุกต์ใช้ เครื่องดื่มชูกำลังที่มันดี ก็เป็นเพียงแค่มันมีน้ำตาลกลูโคส แต่มันคุ้มไหม มันแพงไปไหม ถ้าท่านรู้ว่าเครื่องดื่มชูกำลังมันก็ใช้น้ำตาลทรายได้ น้ำตาลปี๊บก็ได้ ใช้ฮอร์โมนไข่ก็ได้ ฮอร์โมนไข่อย่าลืมว่าเขาใช้ตัวกากน้ำตาล ใช้ยาคูลล์ มีรสเปรี้ยว แต่ก็มีรสหวานด้วย และก็พวกแลคโตบาซิลลัสจากนมเปรี้ยวมันก็สร้างเอนไซม์ย่อย พวกไข่ เปลือกไข่ วิตามินต่างๆทำให้เกิดการติดดอกออกผล ฮอร์โมนไข่นี้ก็ต้องยอมรับว่า ทำมากับมือ เห็นมาด้วยตา ตอนที่ทำสวนมะม่วง สวนมะม่วงนั้นเรามีทั้งโชคอนันต์เป็นมะม่วงยำ และมีน้ำดอกไม้ และมีเขียวเสวย ตอนนั้นไปซื้อสวนมะม่วงที่เขาทิ้งไว้เป็น 10 ปี พอตัดแต่งกิ่ง ดินเขาทิ้งแล้ว สวนไม่ได้ทำอะไรมาก พอตัดแต่งกิ่งดูแลดินมันอุดมสมบูรณ์ ดินมันถูกพัก พอไปใส่ฮอร์โมนไข่ ทั้งทางโคนเราใช้อันนั้น 30 ซีซี หลังจากที่ปัดกวาดเอาเศษไม้ใบหญ้าโคนต้นออกให้สะอาด ไม่ให้มีขี้ไก่ ขี้เป็ด ไม่ให้มีไนโตรเจนอยู่ ให้สะอาดราดฮอร์โมนไข่ ทางใบก็ฉีดพ่นอีก 5 ซีซี บวกกับพวกไวตาไลเซอร์ สังกะสี บวกกับพวกจุลินทรีย์กันพวกเชื้อราไปด้วย ดอกออกดกมากทั้งต้น มีช่อดอก คนที่ใช้ฮอร์โมนไข่ต้องรู้ถ้าบำรุงต้นให้ดี เพราะหลังๆเราทำก็มีในเรื่องของการที่ติดดอกออกผล แต่ไม่มากเท่ากับชุดที่เราทำครั้งแรกตอนนั้น เพราะว่าดินมันถูกใช้งานไป ก็จะให้เห็นว่าทำไมใช้เครื่องดื่มชูกำลังดอกดกดี มันมาจากที่เล่าให้เพื่อนๆฟัง ก็คือเป็นเรื่องของ CN ratio เป็นเรื่องของการ ความจริงแล้วเทคนิคมันมีเยอะมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เช่น การยับยั้งใบอ่อน การตรึงไนโตรเจนจากพวกภูไมท์ สเม็คไทต์ ภูไมท์ซัลเฟต ตรึงไนโตรเจนที่โคนส่วนเกิน ทางใบฉีดพวกยับยั้งใบอ่อน หรือพวกต้นไม้ที่โทรมใช้อาหารจานด่วน สูตรอาหารจานด่วน เช่น เอาน้ำ 20 ลิตร ไข่ไก่ไม่เอาเปลือก เอาไข่ขาว ไข่แดง กวนตีเหมือนไข่เจียว 2 ฟอง แล้วยูเรีย 20 กรัม โพแทสเซียมฮิวเมท 10 กรัม ก็ใช้ดีกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง


มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปอลดสารพิษ www.thaigreenagro.com

×