ดูยังไงว่าพืชมีลักษณะขาดมหธาตุ

พืชนั้นจำเป็นต้องใช้ธาตุอาหารในการเจริญเติบโตและการออกดอก ออกผล ซึ่งธาตุที่นำมาใช้มั้งหมด 16 ธาตุ โดยมี 3 ธาตุที่พืชสามารถได้มาจากอากาศและน้ำ ได้แก่ คาร์บอน ออกซิเจน และ ไฮโดรเจน ธาตุเหล่านี้ได้มาจากการผุผังสลายตัวของส่วนที่เป็นอนินทรีย์วัตถุและอินทรีย์วัตถุในดิน โดยเราสามารถแบ่งความต้องการของพืชในการใช้ธาตุได้ 2 กลุ่ม คือ มหธาตุและจุลธาตุ

                โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงมหธาตุหรือ ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณมาก ซึ่งได้มากจากดินมีทั้งหมด 6 ธาตุ ได้แก่ ไนโตรเจน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม และ กำมะถัน โดยในมหธาตุจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ธาตุอาหารหลัก(ธาตุปุ๋ย) และ ธาตุอาหารรอง โดยธาตุอาหารหลักนั้นประกอบด้วย ไนโตรเจน โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งแต่ละธาตุนั้นมีความสำคัญและหน้าที่ที่แตกต่างกันไป โดยธาตุไนโตรเจนนั้น จะช่วยในการสร้างคลอโรฟิลล์ ซึ่งจะช่วยในการสังเคราะห์แสง ทำให้ใบพืชนั้นมีสีเขียวและเร่งเจริญเติบโตทางใบได้ดี ธาตุโพแทสเซียมนั้นนจะช่วยในเรื่องของการสร้างแป้ง โปรตีน และน้ำตาล ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล ช่วยให้ผลเติบโตเร็วและมีคุณภาพดี ส่งเสริมการทำงานของเอนไซม์ต่างๆทำให้พชมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และธาตุฟอสฟอรัสนั้นจะช่วยในการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของราก การออกดอก การติดผล การสร้างเมล็ด และ ช่วยให้พืชแข็งแรงทนทานต่อโรคและแมลง ส่วนธาตุอาหารรองนั้นเป็นธาตุอาหารทีพืชต้องการแต่ปริมาณจะน้อยกว่าธาตุอาหารหลัก แต่ยังมีความสำคัญในการทำงานของพืช โดยธาตุอาหารรองประกอบด้วย แคลเซียมที่มีหน้าที่ช่วยในการสร้างผนังเซลล์ ทำให้พืชแข็งแรงลำต้นไม่หักง่าย การผสมเกสร การงอกของเมล็ด และยังช่วยในการดูดซึมธาตุ มีธาตุแมกนีเซียมซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยสังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมัน และ น้ำตาล ทำให้สภาพกรดด่างในเซลล์นั้นพอเหมาะและช่วยในการงอกของเมล็ด และธาตุกำมะถัน เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกรดอะมิโน โปรตีน และวิตามิน และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างรสชาติและกลิ่นของพืช

                แล้วพืชที่มีการขาดธาตุอาหารนั้นจะรู้ได้อย่างไรและแก้ไขอย่างไร การขาดธาตุอาหารของพืชนั้นีลักษณะที่เกิดต่างกันการแก้ไจจึงแตกต่างกัน โดยหากพืชขาดธาตุไนโตรเจนจะมีลักษณะคือ พืชมีอาการใบเหลืองโดยเกิดที่ใบแก่ก่อนและลามไปยังใบอ่อน ใบมีขนาดเล็กลง ลำต้นแคระแกร็นและให้ผลผลิตต่ำ วิธีการแก้ไขหากพืชขาดธาตุไนโตรเจนคือการ ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก การใส่ปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0 และใส่รวกันกับหินแร่ภูเขาไฟที่มีชื่อว่าภูไมท์ซัลเฟตเหลืองโดยอัตราการใช้นั้นเราจะใช้ปุ๋ยยูเรีย 2 ส่วน ต่อ ภูไมท์ซัลเฟตเหลือง 1 ส่วน หากพืชขาดธาตุโทแทสเซียมลักษณะจะเริ่มเกิดที่ใบแก่มีสีเหลืองซีด ขอบใบม้วนงอ และมีจุดสีน้ำตาลไหม้ขึ้นตามขอบใบ ลำต้นพืชไม่แข็งแรง ผลผลิตไม่เติบโต คุณภาพต่ำ สีของผลไม่สม่ำเสมอ รสชาติไม่ดี วิธีการแก้ไขพืชที่ขาดโพแทสเซียมคือการใช้ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ หรือ จะใช้โพแทสเซียมซัลเฟต ผสมกับหินแร่ภูเขาไฟที่ชื่อว่า ภูไมท์ซัลเฟตเหลือง ในอัตรา ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ หรือ จะใช้โพแทสเซียมซัลเฟต 2 ส่วน ต่อ ภูไมท์ซัลเฟตเหลือง 1 ส่วน หากพืชขาดธาตุฟอสฟอรัสลักษณะที่เกิดใบจะมีสีม่วงแซมด้วยสีเขียวเกิดที่ใบแก่และจะเปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีน้ำตาลจากนั้นใลจะหลุดล่วง ลำต้นแคระแกรนไม่ออกดอก การเจริญเติบโตของรากช้า สามารถแก้ได้โดยใช้หินฟอสเฟตและภูไมท์ซัลเฟตเหลือง ซึ่งทั้งสองตัวนี้เป็นหินแร่ภูเขาไฟ อัตราการใช้นั้นเราจะใช้หินฟอสเฟต 2 ส่วน ต่อ ภูไมท์ซัลเฟตเหลือง 1 ส่วน หากพืชที่ขาดธาตุแคลเซียมนั้นจะมีลักษณะรากสั้น ผลแตก ตุณภาพผลไม่ดี ใบที่เจริญออกมาใหม่จะมีลักษณะหงิกงอ ตายอดไม่เจริญและอาจมีจุดดำที่เส้นใบ หากพืชขาดธาตุแมกนีเซียมพืชนั้นจะมีอาการที่ใบแก่โดยมีอาการใบเหลืองยกเว้นเส้นใบ ใบหลุดและร่วงเร็ว โยพืชที่ขาดธาตุแมกนีเซียม และ แคลเซียม นั้นสามารถใช้ยิปซั่มแก้อาการขาดธาตุทั้งสองได้ โดยใช้ใน ยิปซั่ม 25 กิโลกรัม ต่อ พื้นที่ 1 ไร่ และสุดท้ายหากพืชที่ขาดธาตุกำมะถันนั้นใบบนและใบล่างจะมีสีเหลืองซีด และ ต้นอ่อนแอ ขนาดใบจะเล็กลง สามารถแก้อาการพืชที่ขาดธาตุกำมะถันได้โดยการใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ ทีจีเอ โกลด์ โดยใช้ในปริมาณ 25 กิโลกรัม ต่อ พื้นที่ 1 ไร่ หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษ ติดต่อสอบถามได้ที่ https://thaigreenagro.com/

บทความโดย      นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร

ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด