เบื้องต้นจะพูดถึงหอยเชอร์รี่ หอยเชอร์รี่นั้นเป็นหอยที่มาจากญี่ปุ่น ฟิลิปิน และก็ใต้หวัน มีการนำไปเลี้ยงส่งเสริมการขาย ที่ประเทศญี่ปุ่นและก็ส่งออกเป็นหอยสวยงาม
หอยเชอร์รี่ส่วนใหญ่จะทำลายต้นข้าว ในระยะกล้า โดยเฉพาะนาปั๊กดำนี่ หอยเชอร์รี่นี้ชอบมาก กินได้หมดนะครับ เวลาหลบอยู่ในน้ำไม่มีข้าวก็กินพวกหญ้าขน อะไรต่างๆ ข้าวโพด อยู่ได้หมด และก็ไปทำลายกัดกินสร้างความเสียหาย ก็ต้องเสียเมล็ดพันธ์ข้าวใหม่ ใบแหว่ง ทำให้สังเคราะห์แสงได้ลำบาก จนเป็นที่มาว่า ชาวไร่ชาวนาในสมัยนั้นต้องไปใช้เคมีกำจัดหอยนะครับ ความจริงแล้วเคมีกำจัดหอยมีเยอะแยะมากมาย แต่ก็ตัวที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุด เป็นกลุ่มจำพวกเฮนโดซันแฟร์ เฮนโดวันแฟร์ปกติเป็นยาฆ่าเห็บ หมัด อย่างรุนแรง ตายทุกชนิดเลย แล้วก็นำมาใช้กำจัดปลวก ทาเนื้อไม้ เป็นสารที่ละเหย และดูดซึม รุนแรง จนมีการห้ามใช้เหมือนกลุ่มพวกเมธามีโดฟอร์ด อีกเยอะแยะมากมาย ดังนั้นผลเสียที่ทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ ทางดิน ทางอากาศ ทำให้สิ่งแวดล้อมประเทศไทยเสียหาย จึงเป็นที่มา ความจริงแล้วทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษนี้เรามีการ รณรงค์ส่งเสริมมาเป็นสิบปีแล้วนะครับ เราให้ใช้ฝักคูณแก่ นอกจากการใช้สารพิษ แล้วมีการใช้กากชา เอากากชาพวกนี้เข้ามาใช้ แต่กากชา เขามีปัญหาในเรื่องของปลาตาย เมื่อปลาตายก็ทำให้บ้างคนที่อยากจะทำนาแบบผสมผสาน คือ ทำนาด้วยเลี้ยงปลาด้วย ก็ไม่อยากให้ตาย ก็เลยต้องมาดู เราก็มีการทดสอบ เอาฝักคูณมา เป็นฝักคูณแก่เริ่มแรก เราแค่เอามาซับ หั่น และก็หว่าน ลงไปในการเตรียมเทือก ก็ปรากฏว่าหอยที่มีฝักคูณอยู่ในเทือก จะหนีเทือกเหล่านั้นออกมา แล้วก็รวมกองกันอยู่ท้ายนา โดยส่วนตัวของผมเองนั้น ก็ได้ปลูกข้าวไว้ ที่ จ.อ่างทอง แล้วได้ใช้วิธีการนี้ในการปรับประยุกต์ใช้และก็ทดลอง รวมถึงการใช้ผงสมุนไพรที่มีรสขม คลุกผสมกับเมล็ดข้าวเปลือกหรือข้าวปลูก หว่านลงไป และก็นกพิราบลงมากิน นกพิราบจากวัดใกล้ๆบ้าน ก็ลงมากิน แต่ลงมาแปปเดียวเพราะว่าไม่อร่อย มีรสขม เราก็เอามาสู้ทั้งหนู ทั้งนก และก็หอยด้วยเหมือนกัน แต่ที่นี้เราก็มาต่อยอด ด้วยการเอามาหมัก ฝักคูณแก่ 1 กก. กับ น้ำ 5 ลิตร อาจจะใส่จุลินทรีย์ตัวช่วยสกัดหรือช่วยย่อยฝักคูณแก่ โดยจุลินทรีย์ขี้ควาย หรือจะใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วย หรือจะเป็น EM ก็ได้นะครับ อย่างใดอย่างหนึ่ง และก็ใส่กากน้ำตาลไปประมาณ 2-3 ลิตร/น้ำ 5 ลิตร หมักไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ถ้าเร่งรีบมีเติมเหล้าขาวเติมแอลกฮอล์ลงไปก็หมัก 1 วัน ก็ได้ สารตัวอัลซาฟีโนน หรือจะให้น้ำลงไปในร้องนาและเทือกแล้วนำฝักคูณมาหว่านลงไปเลยก็ได้ บางคนกลัวว่าไอ้ตัวฝักคูณใส่ลงไปจะแข็งและจะทิ่มเท้า การที่เราเอาเรื่องฝักคูณแก่มาพูดนั้น เราจะทำให้เกษตรกรช่วยในการลดต้นทุน หากเกษตรกรท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
เขียนและรายงานโดย ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
สอบถามเพิ่มเติมที่ 02-9861680-2 Hotline สายด่วน 084-5554205 -9 หรือ @thaigreenagro
เสนอติชมได้ที่ Email : thaigreenago@gmail.com