โกโก้จัดว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรงในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์และยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมช็อกโกแลตและเครื่องดื่มทำให้ความต้องการของตลาดโลกมีมาอย่างต่อเนื่องหากใครที่เริ่มสนใจในการปลูกโกโก้นั้นการเริ่มปลูกโกโก้ไม่ได้ยากอย่างที่คิดโดยพื้นฐานแล้วโกโก้เป็นพืชเขตร้อน เจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิประมาณ 25-28 องศาเซลเซียส และต้องการน้ำสม่ำเสมอดังนั้นพื้นที่จะปลูกควรจะมีฝนตกสม่ำเสมอหรือมีปริมาณน้ำที่เพียงพอเช่น
จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง ภูเก็ต เชียงราย เพชรบูรณ์ และ ค่าpHที่เหมาะสมในการปลูกอยู่ที่ 6.5 และดินที่เหมาะสมในการปลูกโกโก้คือดินที่มีการระบายน้ำได้ดีและโกโก้ยังเป็นพืชที่ชอบร่มเงาโดยเฉพาะต้นเล็กโดยในประเทศไทยมีการพัฒนาสายพันธุ์ลูกผสมออกมา 2 สายพันธุ์ได้แก่ 1.พันธุ์ลูกผสมชุมพร 1 จะให้ผลผลิตสูงและคุณภาพเมล็ดดีโดยให้ผลผลิตเมล็ดโกโก้แห้งสูงสุดตลอดเวลาการทดลอง 13 ปีสูงกว่าพันธุ์ที่เกษตรกรปลูกประมาณ 31.4% ให้ผลผลิตเฉลี่ย 127.2 กก./ไร่ เมล็ดมีเปอร์เซ็นต์ไขมันสูงประมาณ 57.27% ลักษณะผล ป้อม ไม่มีคอและก้นไม่แหลม ผิวผลเรียบ ร่องค่อนข้างตื้นเมล็ดมีเนื้อในเป็นสีม่วง ความทนทานต่อโรคกิ่งแห้งค่อนข้างสูง ทนทานต่อโรคผลเน่าดำปานกลาง ลักษณะการผสมเกสร เป็นพวกผสมข้ามต้น
ควรปลูกลูกผสมพันธุ์อื่นร่วมด้วยอย่างน้อย 1 พันธุ์ในแปลงเดียวกันโดยปลูกคละปนกันไปเพื่อประโยชน์ในการผสมเกสร 2.พันธุ์ลูกผสม I.M.1 พัฒนาพันธุ์ โดย ดร.สัณห์ ละอองศรี สาขาไม้ผล ภาควิชาพืชสวน คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะเด่นคือเจริญเติบโตเร็ว ทนแล้ง เหมาะสำหรับปลูกในเขตภาคกลาง เหนือและอีสาน ให้ผลผลิตสูงเริ่มออกดอกติดผลและเก็บเกี่ยวได้ในปีที่ 3 หลังจากปลูกเมล็ดแห้งมีขนาดและคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด เมล็ดมีปริมาณไขมันสูงเฉลี่ย 52 เปอร์เซ็นต์
โดยวิธีการปลูกนั้นหากจะปลูกโกโก้ระยะการปลูก 3x4 เมตร แต่ละต้นจะห่างกัน 3 เมตร และแต่ละแถวเว้นระยะห่าง 4 เมตร และการใส่ปุ๋ยโกโก้ต้นเล็กนั้นให้ใส่ภูไมท์ ซัลเฟตเหลือง ร่วมกับปุ๋ย 15-15-6 ในอัตราส่วน 1 : 5 และ การใส่ปุ๋ยโกโก้ที่ให้ผลผลิตแล้ว(หลังจาก3ปี) ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ทีจีเอ โกลด์ ภูไมท์ ซัลเฟตเหลือง ร่วมกับปุ๋ยสูตร 12-12-17 ในอัตราส่วน 10 : 1: 5 และหมั่นเติมธ่ตุอาหารหลักเพื่อเติมเต็มธาตุอาหารที่พืชนำไปใช้หรือหากตรวจว่าต้นโกโก้นั้นขาดธาตุอาหารเสริมอาหารรองสามารถใช้ซิลโคเทรซที่มีธาตุอาหารรองและอาหารเสริมให้แก่พืชได้โดยใช้ในอัตรา 5-10 ซีซี /น้ำ 20 ลิตร ซึ่งเมื่อโกโก้ให้ผลผลิตแล้วนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือนจึงจะเก็บเกี่ยวผลได้โดยผลที่เก็บเกี่ยวนั้นจะต้องมีสีเขียวหรือสีเหลือง ประมาณ 70% ของทั้งผลหรือถ้าปล่อยคาไว้จนนานเกินไปผลก็จะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเหลืองอมส้มหรือน้ำตาล ทำให้เมล็ดด้านในผลเริ่มงอกทำให้ไม่สามารถนำไปหมักหรือแปรรูปได้
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษ ติดต่อสอบถามได้ที่ https://thaigreenagro.com/ บทความโดย นางสาวธารหทัย จารุเกษตรพร ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด

