วันนี้เราจะคุยเกี่ยวกับเรื่องของโรคตายพรายในกล้วย
ถือว่าเป็นโรคที่เกษตรกรส่วนใหญ่นั้นมีปัญหาพูดถึงกล้วยกับคนไทยนั้นปลูกได้ทั่วภูมิภาค
เป็นพืชเศรษฐกิจ เป็นพืชที่ใช้เป็นอาหาร เป็นยาเด็ก ป้อนเด็ก เลี้ยงเด็กตั้งแต่แรกเกิดหลังจากที่เริ่มเบื่อนม
เราจะใช้ประโยชน์จากกล้วย กล้วยบ้านเราก็มีเยอะแยะมากมาย กล้วยน้ำหว้า กล้วยหักมุก
กล้วยหอม กล้วยไข่อะไรต่างๆเหล่านี้ ปัญหาที่สำคัญก็คือเรื่องของตัวโรค
ตัวโรคพืชนั้นก็ที่มีปัญหากับกล้วย
ในวันนี้คือเรื่องโรคตายพราย
อาการของโรคตายพรายส่วนใหญ่มารบกวนหรือระบาดในกล้วยที่มีอายุ 4-5 เดือนขึ้นไป
การเกิดโรคตายพรายในกล้วยนี้ก็มีมากมายหลายสาเหตุ นั่นก็คือว่าถ้าเอาหน่อ หรือ
ต้นพันธุ์ ที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนมาตั้งแต่เริ่มแรก อันนี้พอตั้งหลักได้ สปอร์ของเชื้อราฟิวเซอเรียม
ออกซีสปอตัม เบนคูเซ่ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคตายพราย
เขาก็ฝังอยู่ในเง้าเมื่อสภาพแวดล้อมเริ่มนิ่ง หมายความว่ากล้วยก็ตั้งตัว
ความชื้นเหมาะสม
เชื้อที่ติดมาตั้งแต่หน่อหรือต้นพันธุ์นั้นเขาก็สามารถที่จะค่อยๆปรับตัวก็นอกจากสปอร์และก็เข้าทำลายเซลล์หรืออีกทางหนึ่งสมมติว่าได้หน่อกล้วยที่ผู้ปลูกมีความรู้
เกษตรกรมีความรู้ นำหน่อกล้วยมาจุ่ม มาชุบ ในน้ำที่แช่สปอร์ของไตรโคเดอร์ม่า
หรือแช่ในน้ำที่มีบาซิลลัส ซับทิลิส ของไทยกรีนอะโกรมีชื่อว่าอินดิวเซอร์
เป็นไตรโคเดอร์ม่าที่มีใบรับรองจากกรมวิชาการการเกษตร หรือ บาซิลลัส ซับทิลิส
อีกตัวหนึ่งเป็นแบคที่เรียที่ปราบโรคก็คือตัว ไบโอเซ็นเซอร์ คือชื่อการค้า
เราสามารถใช้ตัวไตรโคเดอร์ม่าหรืออินดิวเซอร์หรือเลือกเป็นตัวบาซิลลัส ซับทิลิส
อย่างละ 50 กรัม อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เอามาผสมน้ำ 20 ลิตร และใช้จุ่มหน่อกล้วย
เพื่อป้องกันไม่ให้สปอร์ของฟิวเซอเรียมที่เป็นสาเหตุของโรคตายพรายเข้ามาระบาดในหลุมปลูก
ในแปลงปลูกกล้วยของเรา กรณีที่ 1 ก็คือติดมากับต้นพันธุ์ กรณีที่ 2 คือ
เรามีความรู้ เราเข้าใจ เราทำลาย
หรือเราเอาจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิปักต่อเชื้อตัวนี้เอามาคุมมันก่อนจะสู้ไหวหรือไม่ไหวอีกเรื่องหนึ่ง
เราเอาจำนวนมากมาข่ม ให้มีไตรโคเดอร์ม่า ให้มีบาซิลลัส ซับทิลิส
อยู่ที่เน่าของกล้วยเยอะๆไว้ก่อนยังไงจุลินทรีย์ที่นิสัยไม่ดีเขาก็จะค่อยๆอพยพโยกย้ายไป
เราคุยถึงสาเหตุที่ 3 สมมติว่าต้นพันธุ์ก็เลือดดีแล้ว ป้องกันจุลินทรีย์แล้ว มันก็ยังมีการเกิดโรคที่ดินได้
ถ้าดินบริเวณนั้นมีหลุมปลูก รดน้ำ เปียกแฉะ ฉ่ำ คือ
ถึงแม้ว่ากล้วยจะชอบความชุ่มชื้นแต่ไม่ได้หมายความว่าเปียกแฉะ
เพราะฉะนั้นดินบริเวณหลุมปลูกของกล้วยนั้นไม่แฉะจนนำพาหรือสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดโรคตายพรายได้ง่ายๆอันนี้ต้องไปสังเกต
เฝ้าระวัง กรณีที่ 4 สาเหตุที่โรคตายพรายจะเกิดบางทีถ้าเราไปแหวก
ไปขุดดูที่โคนของต้นกล้วย เราไปขุด แหวก เจาะ ดูปรากฏว่ามีพวกหนอนกอ ด้วง
ด้วยเหมือนกันที่ทำให้เกิดสาเหตุของโรคตายพราย พวกหนอนกอ พวกด้วงที่กัดกินราก
ทำให้เกิดบาดแผล เมื่อมีบาดแผล เชื้อฟิวเซอเรียมก็เข้าไป
ฟิวเซอเรียมเป็นขาโหดถือว่ามีความแข็งแกร่งจนบางตำรา ครูบารอาจารย์ที่บอก
ไม่สามารถที่จะใช้เชื้อจุลินทรีย์ชีวภาพเข้าไปป้องกันหรือ กำจัดได้
แต่เนื่องด้วยว่า
เราก็ต่อสู้กับเรื่องนี้ในแนวทางที่ไม่ใช้สารพิษแม้แต่หยดเดียวมายาวนาน
เรารู้ว่าการเติมประชากรของจุลินทรีย์ที่นิสัยดีๆ เช่น ไตรโคเดอร์ม่า บาซิลลัส
ซับทิลิส สายพันธุ์ที่มันยับยั้ง ทำลายพวกเชื้อโรค
ก็มีประชากรจุลินทรีย์ที่นิสัยดีๆ เชื้อโรคก็เข้ามาอาศัยอยู่ไม่ได้
เรารู้สาหตุของการเกิดโรค หรืออาจจะเป็นในห้วงช่วงที่ผ่านร้อนแล้งยาวนานสปอร์ของเชื้อราฟิวเซอเรียม
ออกซีสปอตัม เบนคูเซ่ ก็ปลิวมาร่วงหล่นในช่วงฝนแรกของฤดู ในช่วงที่หมอกจัด
น้ำค้างเยอะ ตัวนี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สปอร์ของเชื้อราฟิวเซอเรียม
สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคตายพรายนั้นเกิดในแปลงกล้วยของเราได้เช่นเดียวกัน
วิธีการที่เราจะป้องกันรักษา ตามสไตล์ของไทยกรีนอะโกร หรือ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
เราจะเน้นในเรื่องของการล้างใบ ทำลายสปอร์ จากสารสกัดจากเปลือกมังคุด
จากกลุ่มของพวกจุลสีบวกซิลิสิคบวกทองแดง สามารถใช้ตัวนี้และสารสกัดจากเปลือกมังคุด
ผงจุลสีชื่อ ฟังก์กัสเคลียร์ สารสกัดจากเปลือกมังคุดชื่อแซนโธไนท์ ถ้าท่านปลูกกินกันเองในครัวเรือน
ก็หมักเองก็ไม่ต้องเสียตัง และเอาผงจุลสี ทองแดง แมงกานีส ซิลิสิคแอซิด
เอามารวมและผสมน้ำฉีด ตัวนี้จะช่วยทำลายสปอร์ที่ร่วงหล่นในระยะแรก ให้สปอร์แตก
มันจะทำลายสปอร์ ถ้ามันยังเล็ดลอดอยู่บ้าง สมมติถ้ามา 100 % สปอร์มีแน่นอนเพราะธรรมชาติการปลูกกล้วยนั้นยิ่งปลูกเชิงเดี่ยวยังไงก็หนีให้พ้นจากโลกแมลงศัตรูพืชรบกวนได้ยาก
เมื่อเป็นเซลล์แบ่งตัวมาทำลายเราก็ต้องใช้พวกจุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่าหรือบาซิลลัสซับทิลิส
ฉีดเพื่อตามไปยับยั้งตัวที่มันนอกจากสปอร์เป็นเซลล์อีกทีหนึ่ง
หรือบางคนอาจจะใช้วิธีเทคนิคที่ทำให้กล้วยมีความแข็งแรงเหมือนนักมวย
เหมือนไก่ชนก็ได้ คือทำให้ดูแลตั้งแต่ดิน ปรับค่าความเป็นกรดและด่างของดินให้ได้ PH
หรือค่าความเป็นกรดด่างอยู่ระหว่าง 5.8-6.3 คือต้องเป็นกรดเล็กน้อย ไม่ใช่เป็นกรอต่ำกว่า
5.8 กรดจัดก็ไม่ดี ด่างจัดก็ไม่ดี เขาก็จะละลายพวกกลุ่มจุลธาตุ ทองแดง แมงกานีส
ออกมามากเกินไป จับตรึงฟอสฟอรัส กล้วยดูดขึ้นมาใช้งานไม่ได้
เมื่อดินเป็นกรดหรือด่างจากไนโตรเจนก็ระเหยรวดเร็วกล้วยก็กินไม่ได้
ทำให้กล้วยไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
ก็ทำให้อ่อนแอเหมือนคนโตมาด้วยการกินไขมันเยอะก็อ้วนเกินไป กินไม่กินผักไม่กินวิตามินก็ผอมแห้งตัวเหลืองซีด
เลือดออกตามไรฟัน ผมร่วง ก็ได้เช่นเดียวกันนั่นคืออ่อนแอตั้งแต่โดยธรรมชาติ
คือการกินอาหารที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จะให้ดีต้องใช้พวกหินแร่ภูเขาไฟ ที่มี
ซิลิก้าที่ละลายน้ำได้ อย่างพวกภูไมท์ ภูไมท์ซัลเฟต ถ้าเป็นพวกเกรดพรีเมี่ยม พวกพูมิช
พูมิช-ซัลเฟอร์ ความแตกต่างคือค่าความสามารถในการจับตรึงหรือแลกเปลี่ยนประจุ C.E.C
ค่าความสามารถในการจับตรึงแร่ธาตุสารอาหารประจุต่างๆเก็บเป็นอาหารเป็นตู้เย็นไว้ให้กับกล้วย
กล้วยมีความแข็งแรง ต้านทานต่อโรค ขนาดหนอนยังเข้าทำลายได้ยาก
ถ้าเป็นพวกเชื้อราทั่วๆไปก็ยิ่งทำลายได้ยากกว่า ทำให้กล้วยเรานั้นมีโอกาสเจ็บป่วย
ได้น้อยกว่ากล้วยที่ไม่มีหินแร่ภูเขาไฟ ที่สำคัญ กล้วยที่ได้รับหินแร่ภูเขาไฟ
ได้รับแร่ธาตุสารอาหารที่ครบถ้วน สมบูรณ์ เขาก็จะมีรสชาติที่หอมหวาน อร่อย
สีสวยเหมือนกับข้าวหอมมะลิที่ปลูกบนพื้นที่ภูเขาไฟ แถว จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์
จ.ศรีสะเกษ หอม หวาน อร่อยเหมือนทุเรียนภูเขาไฟ ที่ศรีสะเกษ สุรินทร์
ก็เป็นโซนภูเขาไฟ อีกเรื่องหนึ่งถ้าเรามีปัญหาในเรื่องของหนอนเราจะใช้เชื้อ บีที
ราดไปที่โคนถ้ามีปัญหาเรื่องหนอน ด้วงแรดจะต้องใช้พวกบูเวเรีย เมธาไรเซียม
โดยที่เรามีมาตรฐานออแกนิคไทยแลนด์ มาตรฐานไอโฟม มีทะเบียนรับรองจากกรมวิชาการเกษตร
คือบูเวเรีย เมธาไรเซียมจะชื่อว่า ฟอร์แทรน 2 ตัวนี้ถ้าเราใส่ไว้ที่โคนต้น และ
บีทีหรือแบคเทียร์ จะเป็นตัวช่วยทั้งเรื่องหนอน ด้วงแรด
ไม่ให้เข้ามาอาศัยอยู่ที่โคนต้นกล้วย ความเสี่ยงในเรื่องของการรากกล้วยถูกทำลาย
ก็ลดน้อยถอยลง โอกาสเกิดแผลและทำให้เชื้อราฟิวเซอเรียม เข้าทำลายก็น้อยลง
สิ่งต่างๆเหล่านี้เราจะทำเอาจุลินทรีย์ชีวภาพที่เป็นปฏิปักต่อแมลง หนอน ศัตรูของกล้วยทำให้เกิดบาดแผลและนำไปสู่การติดเชื้อฟิวเซอเรียม
คือต้องเติม ฉีด พ่น ถ้าเราสังเกตบริบทสภาพแวดล้อมสวนข้างๆ สวนเพื่อนบ้าน
หรือในพื้นที่นั้นมีการระบาด เราต้องรีบเข้ามาบริหารจัดการในส่วนของเราหากเกษตรกรท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
เขียนและรายงานโดย
ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
สอบถามเพิ่มเติมที่
02-9861680-2 หรือ โทร 084-5554210 Hotline
สายด่วน 084-5554205 -9 หรือ @thaigreenagro
เสนอติชมได้ที่ Email : thaigreenago@gmail.com
Line Official: https://lin.ee/3M1NXzfช่อง Youtube: https://youtube.com/@thaigreenagro-tga847เพจ Facebook: https://www.facebook.com/thaigreenagro?mibextid=LQQJ4dCall Center: 084-5554205-9ฝ่ายวิชาการ : 02-9861680-2เว็บไซต์: www.thaigreenagro.comTiktok: https://bit.ly/3vr5zdoTwitter: https://bit.ly/3q1DwQYShopee: https://shp.ee/kh94aiqLazada: https://bit.ly/2XkPgUr

