ดอกดาวเรืองถือว่าเป็นดอกไม้เศรษฐกิจอีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งต้องใช้กันเป็นประจำ และมีเกษตรกรปลูกกันมาก
แต่ดอกดาวเรืองต้องการการดูแลเป็นอย่างดีถึงจะให้ผลผลิตมากเรื่องด้านการตลาดก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเกษตรกร
เพียงแต่ว่าการปรับราคาอาจจะมีการขึ้นลงตามกลไกลของตลาดถ้าปกติจะเก็บดอกขาย
ส่งร้านดอกไม้ ตกราคาดอกละประมาณ 50 สตางค์ ถึง 1 บาท ตามขนาด แต่ในช่วงเทศกาลปีใหม่
และตรุษจีน เกษตรกรอาจจะปรับรูปแบบขายด้วยการ นำต้นดาวเรืองมาบรรจุในกระถางขาย
ในราคาประมาณ 50 – 100 บาท ตามขนาดก็ยังได้
ดาวเรืองมีหลายพันธุ์ แต่ที่รู้จักคุ้นเคยและอยู่ในความนิยมมีเพียง 2 ชนิด นั้นคือ
ดาวเรืองต้นสูง-ดอกใหญ่ และดาวเรืองต้นเตี้ย-ดอกเล็ก
จะมีสีสันที่โดดเด่นก็มีตั้งแต่สีขาวนวล เหลืองอ่อน เหลือง เหลืองทอง สีส้ม
สามารถปลูกเลี้ยงและออกดอกได้ตลอดปี เพียงแต่จะโตช้าหรือโตเร็วเท่านั้น
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ
ส่วนเรื่องปัญหาที่เกษตรกรผู้ปลูกดาวเรืองจะพบเจอคงไม่พ้นเรื่อง โรคและแมลงในดอกดาวเรือง
วันนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงโรคดอกดาวเรือง ที่ชื่อโรคเหี่ยวเหลืองที่เกิดจากเชื้อรา
Fusarium sp.อาการ เริ่มจากใบดาวเรืองที่อยู่บริเวณโคนต้นแสดงอาการ
ใบเหลือง แห้ง แล้วลามขึ้นมาสู่ส่วนบน จนในที่สุดใบจะเหี่ยวเหลืองและตายไปทั้งต้น
ส่วนของลำต้นจะแบน ลีบ และเหี่ยว ลำต้นบริเวณคอดินหรือเหนือดินเล็กน้อย
มักมีสีแดงหรือสีช้ำกว่าส่วนอื่น เชื้อโรคนี้จะเริ่มพบในช่วงอายุ 40-45 วันเมื่อพบต้นเป็นโรค
ให้ถอนทิ้งและเผาทำลายให้ไกลจากแปลงปลูกมากที่สุด ห้ามทิ้งในแปลงและลงในน้ำ
เด็ดขาดเพราะจะทำให้เชื้ออาจลุกลามไปยังต้น ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากถอนต้นทิ้งก็ขุดดินบริเวณนั้นตากแดดและหมั่นตรวจแปลงบ่อยๆจากนั้นให้ใช้ฟังก์กัสเคลียร์
1.0-2.5 กรัม (หรือ ประมาณ 1ช้อนชา ) แซนโธไนท์ 2 ซีซี ต่อ น้ำ 20
ลิตรคนให้ละลายเข้ากัน นำไปฉีดพ่นให้ทั่วแปลงดาวเรือง ทั้งบนใบ และ ใต้ใบ
ให้เปียกชุ่มโชก เพื่อทำลายหรือล้างสปอร์ โรคเหี่ยวเหลืองจากนั้นให้ฉีด
ใช้ไบโอเซ็นเซอร์(บาซิลลัส ซับทิลิส)กับอินดิวเซอร์(ไตรโคเดอร์ม่า) 50กรัม
ต่อน้ำ20ลิตรฉีดพ่นให้ทั่วทั้งแปลงดาวเรืองทั้งใต้ใบและบนใบ ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง
หรือฉีดพ่นทุก ๆ 5-7 วัน/ครั้ง ควบคุมและกำจัดไม่ให้ โรคเหี่ยวเหลือง เกิดการระบาด
ไบโอเซ็นเซอร์(บาซิลลัส
ซับทิลิส)กับอินดิวเซอร์(ไตรโคเดอร์ม่า)ยังทำหน้าที่เหมือนทหารยามที่ค่อยเฝ้าระวังโรคเหี่ยวเหลือง
ไม่ให้กลับเข้ามาในแปลงของเราได้อีกด้วย
เพียงเท่านี้ผู้เขียนเชื่อว่าจะทำให้โรคเหี่ยวเหลือง ลดลงและหมดไปจากแปลงของเกษตรกรผู้ปลูกแปลงดาวเรืองอย่างแน่นอน
บรรเจิด ยิ่งวงษ์
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com