หน้าแล้ง เป็นช่วงเวลาที่เกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหา แมลงศัตรูพืช เข้าทำลายนาข้าวอย่างหนักหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยคือ เพลี้ยไฟ ที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบข้าว ทำให้ใบแห้งและม้วน หรือ เพลี้ยกระโดด ที่เป็นพาหะนำโรคใบหงิกนอกจากนี้ยังมี แมลงบั่ว ที่ทำลายหน่อข้าว แมลงสิง ที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากเมล็ดข้าว และ หนอนกอ กับ หนอนห่อใบ ที่ทำลายลำต้นและใบข้าว
วิธีการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช แบบเดิมที่นิยมใช้คือการฉีดพ่น สารเคมี ซึ่งแม้จะได้ผลรวดเร็ว แต่ก็ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ทางเลือกที่ดีกว่า คือการใช้ จุลินทรีย์ชีวภาพ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ตัวอย่างจุลินทรีย์ที่นิยมใช้ ได้แก่
บูเวเรีย บัสเซียน่า: ใช้กำจัดเพลี้ยต่างๆ เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ ไรแดง
แบคทีเรีย บาซิลลัส ทูริงเยนซิส: ใช้กำจัดหนอนต่างๆ เช่น หนอนกอ หนอนหนังเหนียว หนอนใยผัก
วิธีการใช้จุลินทรีย์:
- ผสม: ผสมจุลินทรีย์ทั้งสองชนิดลงในน้ำแล้วฉีดพ่น
- เวลา: ฉีดพ่นในช่วงเช้าตรู่หรือเย็น เพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปริมาณ: ปฏิบัติตามอัตราส่วนที่ระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์
- ระยะเวลา: ฉีดพ่นซ้ำทุก 7-10 วัน หรือตามคำแนะนำบนฉลาก
ข้อดีของการใช้จุลินทรีย์:
- ปลอดภัย: ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
- มีประสิทธิภาพ: ช่วยควบคุมและป้องกันการระบาดของแมลงศัตรูพืช
- ลดต้นทุน: สามารถผสมจุลินทรีย์ทั้งสองชนิดเพื่อใช้พร้อมกันได้ ลดค่าใช้จ่ายและแรงงาน
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- ทำความสะอาดแปลงนา: กำจัดวัชพืชและเศษซากพืช เพราะเป็นแหล่งอาศัยของแมลง
- หมุนเวียนพืช: ปลูกพืชชนิดอื่นสลับกับข้าว เพื่อลดการระบาดของแมลง
- ใช้พันธุ์ข้าวที่ต้านทานแมลง: ช่วยลดความเสียหายจากการทำลายของแมลง
สรุป: การใช้จุลินทรีย์ชีวภาพเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชในนาข้าว ช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำและวิธีการที่ถูกต้อง จะช่วยให้การใช้จุลินทรีย์ได้ผลดีที่สุด
บทความโดยนายสายชล ทองเศรษฐี ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด(อดีตนักศึกษาภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืชคณะเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่เฉลิมพระเกียรติ)