วันนี้จะมาคุยกันถึงเรื่องของบาซิลลัส
ซึ่งมีเยอะแยะมากมาย
เราจะมาขยายข้อมูลในเรื่องของบาซิลลัสที่มีเกษตรกรส่วนใหญ่สงสัยสอบถามมี
บาซิลลัสหรือบีเอส ที่ใช้เลี้ยง กุ้ง หอย ปู ปลาแล้วทำไมมี บีเอส ที่ใช้ในการกำจัดโรคพืชในพืชตระกูลส้มพืชไร้ไม้ผลรวมถึงเห็ดด้วย
บาซิลลัสซับทิลิส เป็นชื่อของแบคทีเรีย
ที่มีรูปทรงเป็นท่อนทรงกระบอกหรือทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหลากหลายสายพันธุ์มากมาย
จะมีรูปร่างแตกต่างกันไป
บาซิลลัสซับทิลิสเหมือนกันเป็นแบคทีเรียเหมือนกันแต่ทำไมอีกตัวหนึ่งทำในเรื่องการปราบปรามโรคพืช
อีกตัวหนึ่งไปย่อยสลายของเสียอินทรีย์วัตถุ ในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู
ปลาต่างๆ บาซิลลัส ซับทิลิสมีความหลากหลาย เราคิดค้น วิจัย ทดสอบ คัดเลือก สายพันธุ์ที่ย่อย
เพราะเรารู้ว่าในบ่อเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลามีการให้อาหารเช้า สาย กลางวัน บ่าย เย็น
หรือบางราย เช้า กลางวัน เย็น ให้ทุกวัน โปรตีนที่มาจากอาหารมีความเข้มข้นสูงมาก
ถ้าเราสังเกตยี่ห้ออาหารกุ้ง อาหารปลา อาหารสัตว์น้ำ ของบริษัทยักษ์ใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น CP Betagro อื่นๆที่อยู่ในท้องตลาด
โปรตีนรายที่ 1 ก็อาจจะบอกมี 95 % บริษัทที่ 2 ก็ต้องแข่งมี
96% ทำให้โปรตีนมันเข้มข้นมากเกินกว่ากุ้งตัวเล็กๆลำไส้ไม่กี่ขด
ไม่กี่เซนติเมตร กินเข้าไปไม่สามารถใช้โปรตีนได้หมด กุ้ง ไก่ ปลา หอย
สัตว์น้ำต่างๆ หรือแม้กระทั่งหมู ช้าง ม้า วัว ควาย
เวลากินอาหารที่ความเข้มข้นของโปรตีนสูงเนื่องด้วยเหตุผลทางการตลาดที่มีตัวเลขของใครสูงก็มักจะได้รับความนิยม
มีความที่จะติดตลาด จากรสนิยมที่ตัวเลขคุณภาพสูงกว่าแต่ลืมไปว่าสัตว์ที่กินไปแล้วเมื่อกระบวนการเผาผลาญในร่างกายของสัตว์ที่เรียกว่าเมธาบอซิซึมมันไม่สามารถที่จะเผาผลาญโปรตีนหรือนำไปใช้ประโยชน์ได้หมด
เมื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ไม่หมด มันจะทิ้งกากของเสียของโปรตีน บูดเน่าไว้พื้นบ่อ
โปรตีนเวลาบูดเน่าจะแตกตัวเป็นแอมโมเนีย เป็นไนไตรท์ เป็นก๊าซที่ลดอ๊อกซิเจนในอากาศในน้ำ
ทำให้ปลาอาจจะขาดอ๊อกซิเจนลอยหัว กุ้งที่ปกติจะเป็นสัตว์ที่หลบหลีกภัยจากทางอากาศพวกนก
กุ้งจะไม่เกาะขอบตลิ่งเกาะขอบบ่อจะอยู่ที่พื้นบ่อ แต่ถ้าพื้นบ่อนั้นไม่มีอากาศไม่มีอ๊อกซิเจนที่เพียงพอจากการบูดเน่าเสียของโปรตีนที่ขับถ่ายออกมาจากทางร่างกายของสัตว์
ทำให้โปรตีนผ่านกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์แต่ตัวเป็นแอมโมเนีย และไนไตรท์
ถ้าเข้มข้นมากเกินไปจะทำให้กุ้ง ปลา
ฉี่ไม่ออกเพราะความเข้มข้นของแอมโมเนียในน้ำในสภาพแวดล้อมของกุ้งเข้มข้นสูงกว่าในตัวปลาตัวกุ้งก็จะปล่อยแอมโมเนียมีแรงดันทำให้ฉี่ไม่ออก
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องคิดค้นว่าตัวจุลินทรีย์อะไรที่จะมาย่อยโปรตีนที่มาจากการขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นภาคปศุสัตว์หรือสัตว์น้ำให้ย่อยสลายได้หมด
ไม่ว่าจะเป็นไตรโครเดอร์ม่าเป็นเชื้อราที่ย่อยคาร์บอนคาร์โบไฮเดรต หรือบาซิลลัส
ย่อยโปรตีน ต้องคัดเลือกที่ดีเข้ามา
ความแตกต่างจึงนำบาซิลลัสซับทิลิส สายพันธุ์ที่ย่อยโปรตีนจากการขับถ่ายของสัตว์น้ำสัตว์บกหรือโปรตีนที่หว่านให้กุ้ง
หอย ปู ปลา เหลือตกค้าง เหลือจากอาหารที่เหลือเราไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่า
วิธีการที่เราจะรู้ว่าอาหารเหลือ ความจริงเหลือจากการขับถ่ายของเสียก็มากแล้ว
ยังเหลือจากการอาหารเป็นเม็ดๆสัตว์กินไม่หมด เป็นส่วนเพิ่มสาเหตุทำให้เกิดการบูดเน่า
เพราะฉะนั้นทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษจึงได้คิดค้น วิจัย โดยต่อยอดสืบสานจากท่าน อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ
ที่ท่านได้ผลิตจุลินทรีย์ บาซิลลัสสายพันธุ์ที่เป็นไอเดีย เป็นต้นคิด ต้นกำเนิด
ทำให้เรามีผลิตภัณฑ์ในการย่อยสลายของเสียในบ่อกุ้งบ่อปลา รวมถึงเล้าไก่เล้าหมู
บาซิลลัสซับทิลิส เวลาไปร่วมกับ สมัยก่อนไม่มี
ซีโอไลท์ ไม่มีหินแร่ภูเขาไฟ จะเลี้ยงหมูด้วยขี้เลื่อย ด้วยแกลบ
เวลาขี้เลื่อย + มูลของสุกร มีโปรตีนสูง แล้วจะต้องทำ cn
ratio ทำให้ลงมาสู่สภาวะปกติต้องอาศัยจุลินทรีย์
การเติมบาซิลลัสซับทิลิส ลงไปย่อยเป็นการสร้างความสมดุลให้กับ cn ratio ที่เป็นคาร์บอน ไนโตรเจน เป็นสัดส่วนที่เหมาะสม
ทำให้เลี้ยงหมูในช่วงหน้าหนาวเลี้ยงได้ดีขึ้น
เพราะจุลินทรีย์ย่อยสลายโปรตีนจากขี้หมูที่อยู่กับขี้เลื่อย
ขี้เลื่อยช่วยจับกลิ่นอีกทางหนึ่ง
กระบวนการย่อยทำให้เกิดแก๊สเกิดอุณหภูมิที่อบอุ่นขึ้นทำให้สามารถเลี้ยงหมูในช่วงฤดูหนาวได้ดี
แล้วกลิ่นถ้าจุลินทรีย์สมดุลกับปริมาณของโปรตีนที่ตกค้างในคอกหมู
หมูที่กินอาหารที่โปรตีนสูงก็จึงทำให้กลิ่นเหม็นต่างๆนั้นลดน้อยถอยลง
ตัวนี้จะต้องเป็นจุลินทรีย์ที่ใช้ในการย่อยสลาย ทำหน้าที่ใช้ในคอกปศุสัตว์ ฟาร์มมิ่ง
สัตว์น้ำต่างๆ ส่วนอีกตัวหนึ่งเป็นบาซิลลัสซับทิลิสเรียกว่าบาซิลลัสเหมือนกัน
นอกจากตัวนี้ยังมี บาซิลลัส ทูริงเยนซิส ที่ใช้ในการปราบหนอน
มีหลายบาซิลลัสที่นำไปใช้ประโยชน์เยอะมากมาย
บาซิลลัสตัวนี้เบื้องต้นอยากได้เชื้อรา จุลินทรีย์ที่ใช้ในการปราบปรามโรคพืชได้ดี ท่าน
อ.ดีพร้อม ก็พยายามที่จะ ศึกษา ค้นคว้า วิจัยว่าเชื้อราอะไรบ้าง ที่เป็นกลุ่มที่ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
ทดสอบ วิเคราะห์ ตั้งสมมติฐานหาต่างๆให้ลูกศิษย์ไปคิดค้นไปบอกแนวทาง จนบังเอิญ
คุณพลายแก้ว เพชรบ่อแก่ ไปดูเชื้อราต่างๆจากกุ้งแห้ง ส้มตำ
ปรากฎว่าเอามาเลี้ยงเชื้อในถาดแก้วครอบแทนที่เราจะได้จุลินทรีย์เชื้อราที่มาปราบโรคพืชได้ดีๆ
ปรากฏว่าไปเจอเชื้อราแบคทีเรียชนิดหนึ่งดันมาควบคุมเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า
ไตรโคเดอร์ม่าเป็นจุลินทรีย์ที่เก่งกล้าสามารถ แข็งแกร่ง
เป็นจุลินทรีย์ที่ปกป้องดูแลเชื้อโรค การทดสอบวิจัยของเรากับพบว่ามีเชื้อราบาซิลลัสซับทิลิสตัวนี้มาควบคุมไตรโคเดอร์ม่า
มาควบคุมเชื้อราได้ดีกว่าบาซิลลัสซับทิลิสสายพันธุ์เดียวกันตัวอื่นๆ เราจึงนำมาพัฒนาต่อยอด
คิดค้น วิจัย เรียกได้ว่ามากกว่า 90 % บาซิลลัสสายพันธุ์นี้ต่อสู้กับเชื้อราโรคพืชรวมถึงเชื้อแบคทีเรียที่เกิดโรคแคงเกอร์ในพืชมะนาว
หรือพืชตระกูลส้มต่างๆ เราจึงพัฒนาได้เป็นผลิตภัณฑ์ บีเอส ท่าน อ.ดีพร้อม
ได้ให้คุณพลายแก้วเป็นผู้ค้นพบ
ต้องนำบาซิลลัสซับทีลิสมาทดสอบวิจัย พวกเราชาวเกษตรปลอดสารพิษนำมาพัฒนา
ต่อยอด จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานในระดับสากล เป็นมาตรฐานออแกนิกไทยแลนด์
เป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สามารถนำไปอ้างอิง ปลูกพืช GAP พืช Q ได้อย่างสบาย
หากเกษตรกรท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
เขียนและรายงานโดย
ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
สอบถามเพิ่มเติมที่
02-9861680-2 Hotline สายด่วน
084-5554205 -9 หรือ @thaigreenagro
เสนอติชมได้ที่ Email : thaigreenago@gmail.com
Line Official: https://lin.ee/3M1NXzfช่อง Youtube: https://youtube.com/@thaigreenagro-tga847เพจ Facebook: https://www.facebook.com/thaigreenagro?mibextid=LQQJ4dCall Center: 084-5554205-9ฝ่ายวิชาการ : 02-9861680-2เว็บไซต์: www.thaigreenagro.comTiktok: https://bit.ly/3vr5zdoTwitter: https://bit.ly/3q1DwQYShopee: https://shp.ee/kh94aiqLazada: https://bit.ly/2XkPgUr

