ซิลิก้า…ช่วยให้เซลล์พืชแข็งหนอนฟันหักเชื้อโรคเจาะไม่เข้า

วันนี้จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของซิลิกอนหรือซิลิคอนหรือซิลิก้า มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ซิลิกอน หรือ ซิลิก้า หรือซิลิสิค แอซิด ความจริงมีอยู่ทั่วไปในดิน บนชั้นเปลือกโลก แต่ที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อการสะสมของเซลล์พืชทำให้เซลล์ดูดกินขึ้นมาใช้ประโยชน์นั้นกลับมีน้อย ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของซิลิเกตที่ค่อนข้างจะละลายได้ยากหรือได้น้อย

ตัวซิลิก้าช่วยให้เซลล์พืชนั้นแข็งแรงจนทำให้หนอนฟันหักรวมถึงโรคเชื้อราต่างๆไม่สามารถเจาะทำลายได้        ตัวซิลิก้าเป็นธาตุอาหารที่ตอนนี้อยู่นอกหมวดของธาตุที่เป็นประโยชน์ที่มีความสำคัญ คือยังอยู่นอกวงโคจรของธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม น่าแปลกใจที่ซิลิก้า ที่มีโครงสร้างเป็นตัว Si มีอยู่ในองค์ประกอบของพืชบนโลกใบนี้ที่มีคลอโรฟิลล์เกือบทุกชนิดเรียกว่าเอาพืชชนิดไหนมาอบแห้งแล้วตรวจวิเคราะห์สารอาหาร จะมีซิลิก้าสะสมบ่มเพาะอยู่ในเนื้อเซลล์พืชเกือบทุกชนิดเพียงแต่ยังไม่จัดเป็นธาตุอาหารที่จำเป็น ถ้าดูในหนังสือเรื่องธาตุอาหารพืช ของรองศาตราจารย์ ดร. ยงยุทธ โอสถสภา ก็จัดหมวดหมู่ของซิลิก้าหรือซิลิคอนอยู่ในธาตุเสริมประโยชน์ ธาตุเสริมประโยชน์หมายความว่าพืชนั้นจะมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีก็ทำให้พืชจะมีการเจริญเติบโตเหมือนกับไคโตซาน ไคโตซานเป็นสารที่สกัดมาจากเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนปลาหมึก หรือสัตว์ที่มีกระดูกอยู่นอกลำตัว รวมถึง กั้ง กิ้งกือ กลุ่มพวกนี้จะมีจะมีไคติน ไคโตซาน ที่เวลาฉีดเข้าไปในพืชจะช่วยนั้นสามารถเร่งการเจริญเติบโตและทำหน้าที่ให้พืชมีแอนตี้บอดี้ ทำหน้าที่เหมือนการสร้างวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้เชื้อโรคเข้าทำลายได้ยาก ซิลิก้าชื่อทางโครงสร้างเคมีคือ SIO2  SIO2 มีหลายประเภท อาจจะได้จากเถ้าภูเขาไฟ ลาวาภูเขาไฟ ดินภูเขาไฟ แถว จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.ศรีษะเกต รวมถึง ทราย อิฐ หิน แม้กระทั่งในแกลบในกอซังฟางข้าว ในหญ้าก็มี แต่ซิลิก้าที่แตกตัวเป็นซิลิก้าที่ละลายน้ำได้มีไม่มาก มีบ้างในตัววัตถุดิบที่แตกตัวจาก SIO2 เป็น H4HIO4 มาจากหินที่เดือดแล้ว ผ่านการเผาเรียบร้อยแล้ว มาจากภูเขาไฟ ถ้าเป็นลาวาข้นหนืดจะอยู่ในรูปของกรด ถ้าเป็นแผ่จะอยู่ในรูปที่เป็นด่าง H4HIO4 คือซิลิก้าที่แตกตัวเป็นโมโนซิลิสิค แอซิด ที่แตกตัวได้ ละลายได้ พืชก็สามารถจะดูดกินขึ้นไปสะสมเป็นผลึก ในใบเลี้ยงเดียว เป็นโอปอในใบเลี้ยงคู่ คือพืชทั้งใบเลี้ยงเดี่ยวและใบเลี้ยงคู่ จะสะสมซิลิก้าที่มนุษย์เอาไปเติม

เราสามารถปลูกพืชภูเขาไฟ ปลูกข้าวภูเขาไฟในพื้นที่ที่ไม่ต้องมีภูเขาไฟได้ ด้วยอิทธิพลของซิลิก้า เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เกาะบาหลีเป็นเกาะภูเขาไฟที่ระเบิดทับถม ทับซ้อนมา อายุเป็น ร้อยๆล้านปีจนหินแร่ภูเขาไฟสัมผัสกับอากาศ สายลม แสงแดด บนธรรมชาติ สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก จนทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมเหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช ทำให้ปลูกข้าว ปลูกพืช ปลูกอะไรก็งาม งามโดยที่ไม่ต้องฉีด แข็งแรงจนไม่ต้องฉีดพ่นปุ๋ยยาฮอร์โมน เวลาไปเที่ยวเกาะบาหลีที่ประเทศอินโดนีเซีย จึงไม่ค่อยเห็นร้านขายปุ๋ยขายยาชุกชุมเหมือนในบ้านเรา เนื่องด้วยดินมีความอุดมสมบูรณ์และมีซิลิก้าที่ละลายน้ำได้ หินภูเขาไฟเมื่อสมัยก่อน ท่านอ.ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ เคยเอาข้อมูลเรื่องหินแร่ภูเขาไฟไปพูด ณ สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง ที่เป็นหน่วยงานที่ทำพวกจุลินทรีย์พัฒนาในเรื่องของการปลูกพืช ดร. หลายคนพอได้ยิน อ.ดีพร้อม พูดว่าการใช้หินแร่ภูเขาไฟทำให้หนอนฟันหัก ทำให้ ดร.หัวเราะด้วยความครางแครงว่ามีด้วยเหรอหินแร่ภูเขาไฟที่ใช้ในพืชทำให้หนอนฟันหัก จนต่อมา 10-20 ปี ผู้คนทั้งประเทศไทยและนานาประเทศรอบบ้านเราสนใจที่จะใช้ซิลิก้า โดยเฉพาะซิลิก้าจากหินแร่ภูเขาไฟ เอาไปใช้ในการทำเกษตร เอาไปใส่ทุเรียนให้มีสีสวยงดงาม รสชาติหวานมันอร่อย  ดร. Red danob ประชุมเกี่ยวกับหนอน หนอนเด็กที่ออกจากไข่พยายามกินพืชทดลองที่เป็นข้าวโพด ฟันหนอนเปรียบเสมือนใบเลื่อย เวลาไปกินเซลล์พืช เหมือนนำใบเลื่อยไปฝนกับกระดาษทราย ทำให้หนอนไม่สามารถทำลายพืชที่มีการสะสมจากซิลิกอนที่ละลายน้ำได้ หินแร่ภูเขาไฟมีซิลิก้าละลายน้ำได้ถึง 70 % ใช้ 20 กก.ต่อ 1 ไร่ สามารถทำให้หนอนลดการเข้าทำลาย 50-60% ถ้านำพืชใส่หินแร่ภูเขาไฟ ใส่ซิลิก้าให้สะสมเยอะๆ ใบข้าว ใบพืชต่างๆจะลดการเข้าทำลายของเชื้อรา แบคทีเรีย โรคพืชได้เป็นอย่างดี สามารถลดการใช้ยาฆ่าหนอน การใช้ยาฆ่าเชื้อรา ถ้าสามารถใช้หินแร่ภูเขาไฟเติมในดินหรือใส่ผักปรับค่า pH น้ำ สามารถเอาซิลิสิค แอซิดไปปรับได้ ทำให้พืชเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์

หากเกษตรกรท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

เขียนและรายงานโดย ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

สอบถามเพิ่มเติมที่ 02-9861680-2 หรือ โทร 084-5554210 Hotline สายด่วน 084-5554205 -9 หรือ @thaigreenagro

เสนอติชมได้ที่ Email : thaigreenago@gmail.com