คำอธิบาย
รายละเอียด
ดินดานเป็นดินที่แน่นแข็งน้ำซึมผ่านได้ยากมักจะเกิดขึ้นใต้ชั้นไถพรวนจะเกิดเองตามธรรมชาตินั้นจะเกิดจากตะกอนดินหรืออนุภาคของดินที่ถูกน้ำพาลงไปยังชั้นล่างอุดตัน ช่องว่างระหว่างเม็ดดินจนทำให้ช่องว่างในเนื้อดินน้อยลงการซึมของน้ำลงไปใต้ผิวดินที่น้อยลงหรือน้อยลงบางครั้งไม่สามรถที่จะซึมผ่านไปได้เลย ทำให้การสะสมของน้ำใต้ผิวดินมีน้อยนอกจากนั้นยังเกิดจากการเกษตรกรรมเช่นการใช้รถแทรกเตอร์รถไถวิ่งในแปลง ขณะที่ดินในแปลงมีความชื้นทำให้ดินร่วนซุยถูกบดทับด้วยน้ำหนักของรถไถทำให้ดินแน่นแล้วกลายเป็นดินดานในที่สุด ข้อเสียของดินน้ำไม่สามารถซึมผ่านลงชั้นล่างทำให้ปริมาตรน้ำใต้ดินลดปริมาณลง บริเวณที่ชั้นดินดานจะทำให้พื้นดินบริเวณนั้นสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ได้เร็ว เนื่องจากน้ำส่วนที่สามารถซึมลงไปได้จะไหลบ่าพาแร่ธาตุอาหารต่างๆ ไปยังที่ต่ำได้ง่ายดินแห้งเร็วเพราะว่าไอน้ำจากใต้ดินไม่สามรถระเหยขึ้นมาได้พืชจึงขาดน้ำรากพืชไม่สามารถหยั่งลงลึกได้ทำให้พืชโค่นได้ง่ายเพราะรากตื้นเกิดปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณรากพืชทำให้รากเน่าโคนเน่า
สารSurfact. ALS. มีชื่อสามัญว่าAmmonium Laureth Surfate มีคุณสมบัติช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำทำให้น้ำสามารถแทรกซึมลงไปตามช่องว่างระหว่างเม็ดดินได้ลึก นอกจากนี้ยังช่วยทำให้เม็ดดินที่เกาะกันแน่นแยกตัวออกจากกันดินที่เคยแน่นแข็งเป็นดินดานจะกลายเป็นดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี ดินเก็บน้ำได้ดีขึ้นการที่ดินซึมน้ำได้ดีนั้นยังทำให้ยังช่วยลดการสูญเสียแร่ธาตุอาหารในดิน ที่เกิดจากการชะล้างของน้ำบริเวณหน้าผิวดินได้ดีอีกด้วยทำให้ดินชุ่มชื้นได้ แม้จะเป็นหน้าแล้งทำให้รากพืชหยั่งรากขยายได้หาน้ำอัตราการใช้และวิธีการใช้
ในการใช้Surfact. ALS.ควรจะใช้ในขณะที่ดินเปียกหรือดินมีความชื้นSurfact. ALS.จะทำงานได้ดีวิธีการใช้Surfact. ALS .ประมาณ20-30ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรต่อ 1 งานฉีดพ่น หรือราดบริเวณที่ต้องการแล้วรดน้ำตามอีกอัตราความเข็มข้นขึ้นอยู่กับสภาพดินว่า ดินร่วน ,ดินทราย หรือ ดินเหนียว ควรใช้ปีละ 2-3 ครั้งไม่ควรใช้ในอัตราสูงมากนักแล้วไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ต้นไม้อาจจะโค่นล้มได้เนื่องจากดินร่วนซุยมากเกินไป