0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

โรคจุดขาวในกุ้ง (White Spot Disease)

โรคจุดขาวในกุ้ง (White Spot Disease) ถือว่าเป็นโรคที่น่ากลัวมากในหมู่ผู้เลี้ยงกุ้ง โดยเฉพาะในพื้นที่การเลี้ยงกุ้งแบบเข้มข้น เช่น ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งทำเป็นอาชีพหลักและแน่นอนว่าคงจะหนีไม่พ้น “ โรคจุดขาว ” โรคนี้เกิดจากไวรัส White Spot Syndrome Virus (WSSV) ซึ่งอยู่ใน วงศ์ Nimaviridaeและ สกุล Whispovirus มักพบไวรัส WSSV ในฟาร์มกุ้งแวนนาไมและกุ้งกุลาดำ โดยเฉพาะในสภาพการเลี้ยงที่อุณหภูมิผันผวนและระดับความเค็มต่ำ

โรคจุดขาวติดเชื้อในกุ้งในระยะตัวอ่อนหลังกุ้ง (PL) 40g และทำให้มีอัตราการตาย 100% 3-10 วันหลังจากมีอาการทางคลินิก ไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั้งในแนวตั้ง (จากกุ้งไปยังตัวอ่อน) และแนวนอน (ผ่านน้ำ ตะกอน อาหารและแมลงศัตรูพืช

ลักษณะอาการที่สังเกตุได้หากกุ้งมีการติดเชื้อ WSSV จะแสดงอาการเบื่ออาหาร ลำตัวคล้ำ มีจุดขาวบนกระดอง ว่ายน้ำเป็นกลุ่มใกล้ผิวน้ำ มีกิจกรรมลดลง และจุลินทรีย์ในลำไส้ผิดปกติจุดขาวปรากฏขึ้นครั้งแรกที่ส่วนเซฟาโลทอแรกซ์ที่ 5 และ 6 จากช่องท้อง จากนั้นจึงแพร่กระจายไปทั่วตัวกุ้ง (Kilawati dan Maimunah 2015)

ทำไม WSSV จึงกลายเป็นปัญหาในการเพาะเลี้ยงกุ้ง? เพราะว่าโรค WSSV เป็นปัญหาที่ผู้เลี้ยงกุ้งต้องเผชิญมายาวนาน

โรคนี้นอกจากจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกุ้งที่เลี้ยงแล้ว ยังส่งผลให้ต้นทุนทางเศรษฐกิจสูงขึ้นอีกด้วย เนื่องจากกุ้งมีอัตราการตายสูง ไวรัส WSSV ทำให้กุ้งตายเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว บางครั้งภายใน 6-11 วันหลังจากมีอาการทางคลินิก ในบางกรณีกุ้งที่ติดเชื้ออาจตายภายใน 3-10 วันหลังจากมีอาการ อัตราการตายของกุ้งอาจเกิน 100% หากคุณภาพน้ำในบ่อไม่ดี จึงต้องมีระบบการป้องกันและจัดการกับ WSSV หรือโรคจุดขาวนั้นเอง

โดยเราต้องเริ่มจากขั้นตอนการเลือกสายพันธุ์กุ้งที่ได้ผ่านการรับรองและได้รับมาตรฐาน และปัจจัยที่สำคัญรองลงมาคือ ดิน คุณภาพน้ำ อาหาร และอุณหภูมิ เป็นหลัก หากกุ้งในฟาร์มติดเชื้อไวรัส WSSV เกษตรกรอาจจับกุ้งบางส่วนแล้วแยกกุ้งที่แข็งแรงและติดเชื้อออกจากกันกุ้งที่ติดเชื้อไวรัส WSSV เพียงเล็กน้อยอาจรอดชีวิตได้แม้จะเติบโตช้าและแนะนำให้ใช้สเม็คโตไทต์หว่านลงไปในบ่อ “ สเม็คโตไทต์ ” หินแร่ภูเขาไฟที่มีค่า C.E.C สูงมาช่วยจับก๊าซของเสียลดแอมโมเนียที่ถูกปล่อยออกมาจากกุ้งจำนวนมาก จะช่วยทำให้ก๊าซของเสียลดน้อยลงทำให้ออกซิเจนเพิ่มขึ้นมาแทนที่ และสเม็คโตไทต์ยังมีแร่ธาตุสารอาหารและซิลิก้าที่ละลายน้ำได้เป็นประโยชน์ต่อเบนโธสในการนำไปสร้างเปลือก และใช้เป็นแหล่งอาหารช่วยเร่งการเจริญเติบโตทำให้ปริมาณเบนโธสเพิ่มมากขึ้นเพียงพอต่อการเป็นห่วงโซ่อาหารทดแทนหรือลดจำนวนการซื้ออาหารสำเร็จรูปช่วยลดต้นทุน และการใช้บาซิลัส ซับธิลิส bacillus subtilis sp. (ชื่อการค้าบาซิลลัส MT) นำมาช่วยย่อยเศษอาหารและของเสียในรูปที่เป็นกากตะกอนจะช่วยลดต้นเหตุแห่งการเน่าเสียให้น้อยลงลดการเกิดก๊าซแอมโมเนีย, ไฮโดเย่นซัลไฟด์และมีเธน จึงช่วยทำให้สัตว์หน้าดินโตเร็วมีความอุดมสมบูรณ์ในระบบนิเวศน์ใต้พื้นบ่อ สะอาดปลอดโปร่งโล่งสบาย ขี้เลนน้อย กุ้งไม่เครียดโตไว สามารถลดการระบาดของโรคจุดขาวในกุ้งได้ดี และยังมีการวิจัยของ Citarasu et al. (2006) ค้นพบว่าอาหารที่ประกอบด้วยพืชสมุนไพรบางชนิด ( C.dactilon, Aegle marmelos, T. cardivolia, P. kurooaและE.alba ) หรือน้ำผึ้ง 0.4% (Widanarni et al. 2019)อาจเพิ่มการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและความต้านทานในกุ้งแวนนาไมต่อโรค WSSV ได้นั้นเอง

บทความโดย นางสาวคนึงนิจ หอมหวล ตำแหน่งฝ่ายวิชาการบริษัทไทยกรีนอะโกร (ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line@ ID : Thaigreenagro Facebook : บริษัท ไทยกรีนอะโกร Website : www.thaigreenagro.co.th TikTok : Thaigreenagro

×