ในโลกของการเกษตรที่ยั่งยืน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับหินแร่ภูเขาไฟกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและเป็นประโยชน์ต่อพืชผลและสิ่งแวดล้อม การผสมผสานนี้จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับเกษตรกรยุคใหม่
ปุ๋ยอินทรีย์ อุดมไปด้วยธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ และส่งเสริมกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดิน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน ลดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน และลดความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี
.
หินแร่ภูเขาไฟ หรือ ซีโอไลท์ เป็นแร่ธาตุธรรมชาติที่มีโครงสร้างเป็นรูพรุน มีคุณสมบัติในการดูดซับและแลกเปลี่ยนประจุ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหารของพืช กักเก็บความชื้นในดิน ปรับสภาพความเป็นกรด-ด่าง และยังช่วยลดการสูญเสียปุ๋ย
เมื่อนำปุ๋ยอินทรีย์มาใช้ร่วมกับหินแร่ภูเขาไฟ จะเกิดประโยชน์มากมาย ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร คุณสมบัติค่า C.E.C. (Catch Ion Exchange Capacity) ของหินแร่ภูเขาไฟช่วยกักเก็บธาตุอาหารจากปุ๋ยอินทรีย์ ป้องกันการสูญเสียจากการชะล้าง และค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้พืชดูดซึมได้อย่างต่อเนื่อง
- ปรับปรุงโครงสร้างดิน ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ขณะที่หินแร่ภูเขาไฟช่วยระบายน้ำและอากาศ ทำให้ดินร่วนซุย เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของรากพืช
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช การผสมผสานระหว่างปุ๋ยอินทรีย์กับหินแร่ภูเขาไฟความโปร่งพรุน แร่ธาตุสารอาหารต่างๆ ช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างครบถ้วน ซิลิก้า ทำให้แข็งแรง ต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืชได้ดีขึ้น
- ลดต้นทุนการผลิต ช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ลดการสูญเสียธาตุอาหาร และเพิ่มผลผลิต ส่งผลให้เกษตรกรประหยัดต้นทุน
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมี ลดมลพิษในดินและน้ำ ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ และส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน ลดการไหลของไนเตรตและฟอสเฟตลงสู่แหล่งน้ำซึ่งอาจทำให้เกิดมลพิษ
- ปรับสมดุลค่า pH ในดิน แร่ธาตุในหินแร่ภูเขาไฟสามารถปรับปรุงสมดุลค่า pH ของดินไม่ให้เป็นกรดหรือด่างแบบรวดเร็วเกินไป ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น
- ลดการจับตัวของดินเหนียว ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยให้ดินร่วนซุย ขณะที่หินแร่ภูเขาไฟช่วยเพิ่มโครงสร้างดินที่ดี ทำให้รากพืชเติบโตได้ง่าย
- ช่วยให้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยต่างๆ มีอายุการใช้งานยาวนานแบบปุ๋ยละลายช้าจากความโปร่งพรุนของหินแร่ภูเขาไฟอีกทั้งตัวหินภูเขาไฟเองจะค่อย ๆ ปลดปล่อยแร่ธาตุเป็นเวลาหลายเดือนหรือปี ทำให้ช่วยลดความจำเป็นในการเติมปุ๋ยบ่อยครั้ง
- เหมาะสำหรับการเกษตรอินทรีย์ ไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมีอันตราย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
คุณสมบัติเด่น ๆ ของการใช้งานร่วมกันของปุ๋ยอินทรีย์กับหินแร่ภูเขาไฟ คือการลดจำเป็นในการใส่ปุ๋ยบ่อยครั้ง การปลดปล่อยช้าของธาตุอาหารช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยและแรงงานในระยะยาว อีกทั้งช่วยให้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ปลดปล่อยไนโตรเจนออกมามากเกินควรจนพืชเฝือใบ งามใบอวบอ้วนอ่อนแอต่อโรคแมลงศัตรูพืชเข้ามาทำลายได้ง่าย
วิธีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับหินแร่ภูเขาไฟ ให้ผสมหินแร่ภูเขาไฟลงในปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกก่อนนำไปใช้ในอัตรา 1 : 10 ส่วน หรือโรยหินแร่ภูเขาไฟรอบๆ โคนต้นพืชร่วมกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ใช้หินแร่ภูเขาไฟเป็นวัสดุปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์น้ำก็ทำได้ด้วยเช่นกัน
การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับหินแร่ภูเขาไฟเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการเกษตรแบบยั่งยืนที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป
หมายเหตุ: ควรเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์และหินแร่ภูเขาไฟที่มีคุณภาพ และศึกษาข้อมูลการใช้ให้เหมาะสมกับชนิดของพืชและสภาพดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ดร.มนตรี บุญจรัส
ประธานกรรมการ บริษัท ไทยกรีนอะโกร จำกัด
ประธานชมรมเกษตรปลอดสารพิษแห่งประเทศไทย