วันนี้ผมจะชวนเพื่อนๆมาคุยกันถึงเรื่องการทำนาในพื้นที่ที่ไม่น้อยแล้วก็ไม่มากเกินไปประมาณ 5 ไร่ แล้วก็ปลูกด้วยวิธีการไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าเลย แล้วก็คิดว่าแนวคิดและการปฏิบัติและองค์ความรู้นี้เพื่อนๆน่าจะทำได้จึงจะเอามาบอกกล่าวเล่าสู่กัน
มาสู่เรื่องของเรา เราจะมาดูว่าเป็นในเรื่องของการที่เราทำนา ทำยังไงให้ต้นทุนลดลง เนื่องด้วยว่ามีปัญหาในเรื่องของการใช้ทรัพยากรในการผลิตค่อนข้างสูง เรามีการใช้ต้นทุนเรื่องปุ๋ยยาฆ่าแมลงในการทำนาปลูกข้าวค่อนข้างมาก ผมก็จึงอยากจะเอาเทคนิค เคล็ดลับดีๆ มาบอกกล่าวเล่าสู่ให้กับเพื่อนๆ ได้รับรู้รับฟังกัน เงื่อนไขของการที่เราจะทำนาแล้วลอง ลด ละ เลี่ยง เลิก การใช้ยาฆ่าหญ้าหรือยาคุมหญ้า ผมคิดว่า 1 ครอบครัว จะเป็น 2 คน สามี ภรรยา หรือมีบุตรมีลูกเข้ามาช่วย การใช้พื้นที่จำนวน 1 ไร่ – 5 ไร่ เพื่อนๆสามารถเพาะปลูกข้าวทำนาโดยไม่ต้องใช้ยาฆ่า หรือยาคุมหญ้าได้อย่างแน่นอน การทำนาพื้นที่ที่อยู่ในกรอบบริหารจัดการได้ ถ้าเราไม่อยากจะยุ่งยากลำบากเกินไป เทคนิคอันที่ 1 คือเราอาจจะมีการล่อให้หญ้างอกออกมาตอนเตรียมเทือก สมมุติว่าเราปั่นตอซังฟางข้าว หลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จเรียบร้อย เราอาจจะล่อให้มันหญ้าข้าวแดง ข้าวดีด เมล็ดวัชพืชที่อยู่มากับรถเกี่ยว มากับนก มากับแมลงที่ปนเข้ามาในนาข้าว เน้นก็คือนา 5 ไร่ที่เรายืนยันว่าเอาเป็นโมเดลตรงนี้ไปปรับประยุกต์ใช้ เพื่อนๆยิ่งทำน้อยกว่า 5 ไร่ ก็ยิ่งทำง่าย ที่พูดว่า 5 ไร่ เพราะเราเคยทำมาแล้ว โดยเฉพาะตัวผู้พูดก็ได้เคยทำมาแล้ว ทำนา 5 ไร่แล้วสามารถที่จะบริหารจัดการยาก ยุคสมัยนั้นเราใช้วิธีการดายด้วยมือ คืออาจจะใช้เคียวหรืออาจจะใช้มีด เล็กๆ เอาไปดายหญ้าที่ใช้ชื่อว่าคอมมิวนิส หรือหญ้าผักพริกด้วยการถอนก็สามารถบริหารจัดการด้วยวิธีกนได้ ไม่ได้ยากเย็นอะไรเพียงแต่ว่าการดายหญ้าด้วยมือ 2 คน สามี ภรรยา และครอบครัว ถ้าเราปล่อยให้มันเยอะเกินไปมันก็เหนื่อยแต่ถามว่าไหวไหมมันก็ทำไปวันละล็อค 2 ล็อค วันละแปลง 2 แปลง ก็สามารถทำได้ แต่เราคงไม่ทรมานเพื่อนๆให้ทำนาแบบขนาดนั้นเกินไป ทำไมจึงต้องไม่เน้นการใช้ยาเพราะว่ายาฆ่าหญ้าเรามีการนำเข้ามาปีหนึ่งเยอะที่สุด ยาฆ่าหญ้าเหมือนยาสมัญประจำบ้านของเกษตรกร
ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ไม่ดี ยาฆ่าหญ้าก็ช่วยลดต้นทุนในเรื่องของ เพื่อนๆที่ปลูกอ้อยปลูกมันอาจจะต้องใช้แต่ทำยังไงเราต้องลดปริมาณลงบ้าง เรานำเข้ายาฆ่าหญ้ามาเมื่อก่อนไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์จริง แต่มันเข้มข้นมากขึ้น 20-30 ปี เราเอายาฆ่าหญ้ามาจนมัน ปกติมันไม่ถูกรากพืชดูดขึ้นไปสะสม แต่ปัจจุบันดินมันอิ่มพาราควอต ไกลโฟร์เซต มันอิ่มเอิบเนื้อดินมันโดนฝน โดนอะไร รากมันก็ดูดน้ำขึ้นไปตามธรรมชาติของพืช พอดูดน้ำมันก็ปนเปื้อนเอายาฆ่าหญ้าติดเข้าไปในโครงสร้างต่างๆทั้งดอก ผล เมล็ด เนื้อเยื่อของเขาพอเรากินเข้าไปก็ได้สารพาราควอต ไกลโฟร์เซต ที่มันเข้าไปมันไม่ใช่ยาดูดซึมก็จริงแต่มันมีมากเกิน เรานำเข้ามาปีหนึ่ง มากที่สุดมากกว่ายาฆ่าหนอนฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อรา แล้วก็ไปสะสมอยู่ในผืนดินแผ่นน้ำตั้งแต่ต้นน้ำมาเลย เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน แล้วฝนตกชะล้าง จากภูเขา จ.ตาก จ.อุตรดิตถ์ พะเยา ไหลลงสู่เขื่อนต่างๆไหลลงมาสู่คลองชลประทาน พื้นที่ภาคกลาง อบต. เทศบาลดูดน้ำไปทำประปา ปรากฏว่ามันมีการเก็บข้อมูลแม้กระทั่งเด็ก แม่ลูกอ่อนเอานมให้ลูกกินปรากฏว่ามียาฆ่าหญ้า ทำให้สมองเด็กอะไรต่างๆเสียหมด เป็นที่มาว่าลองเริ่มจากนาข้าวดูก่อน ว่าท่านแค่ใช้วิธีการดายหญ้าก็สามารถที่จะดูแลจัดการได้ แต่เทคนิคของเราเกิ่นไปนิดๆแล้วว่าคงไม่ใช่เอามาดายอย่างเดียว เทคนิคคือล่อ สมมุติว่าเตรียมเทือกเกี่ยวเสร็จ กระจายฟางหน้าฟางให้ราบกับพื้นดิน หล่อน้ำลงไปให้ขลุกขลิก ประมาณสัก 3 เซนติเมตร 5 เซนติเมตร ความจริงแล้วปล่อยไว้ธรรมดา 3 วัน 4 วัน เมล็ดข้าวแดง ข้าวดีดและหญ้ามันก็งอกออกมาเป็นปากนกกระจิบ นกกระจอก มันก็งอกออกมานิดหนึ่ง หรือบางคนจะกระตุ้นการงอกด้วยการฉีดพวกจุลธาตุ ของชมรมเราก็ใช้พวกซิลโคเทรซ ไคโตซาน MT หรือฮอร์โมนไข่ ฮอร์โมนไข่ สูตรไปดูในเว็ปไซต์ไทยกรีนอะโกร พอมันงอกปากนกกระจิบ นกกระจอก เราก็เอาตัวนี้เราจะเอาจุลินทรีย์มาย่อยฟางก็ปล่อยน้ำหน้าท่อนาใช้จุลินทรีย์ขี้ควาย ย่อยสลายตอซังฟางข้าว หรือใครจะใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วยก็ได้ แต่จุลินทรีย์ที่ย่อยได้ดี จุลินทรีย์สัตว์เคี้ยวเอื้องย่อยดีแน่ ปล่อยกับหน้าท่อระบายน้ำมา 5 ลิตรให้น้ำมันท่วมหญ้าข้าวแดงข้าวดีดรอบแรก แล้วใช้รถขุบปั่นเพื่อลด เวลาหญ้างอกมันกินพลังงานจากในเมล็ดของหญ้าข้าวแดงข้าวดีด มันก็จะตายไปส่วนหนึ่ง แล้วก็ปล่อยน้ำออก เราก็รอให้มันงอกอีกรอบหนึ่ง พอมันงอกมาอีกรอบหนึ่งเราก็ปั่นใหม่ ปล่อยน้ำด้วยจุลินทรีย์ขี้ควายมาอีกรอบหนึ่ง หรือจะเป็นจุลินทรีย์หน่อกล้วยก็ได้อีก 5 ลิตรต่อไร่ รวมเป็น 10 ลิตร ตรงนี้เราก็ย่ำ ปั่นให้หญ้าและข้าวแดง ข้าวดีด มันลดปริมาณสมมุติมันมีเยอะ และเทคนิคสำคัญอันที่ 2 อันที่ 1 คือล่อให้งอกแล้วย่ำ เทคนิคที่ 2 คือทำผืนนาให้ราบเรียบนาที่ราบเรียบเสมอกันทั้งแปลง เวลาเราหล่อน้ำเข้าไป ส่วนใหญ่แล้วหญ้าจะขึ้นตรงไหน หญ้าจะขึ้นตรงที่ดอน น้ำที่มันหล่อได้หญ้าก็จะไม่ขึ้น เพราะฉะนั้นการทำนาให้ได้ผลผลิตคุ้มค่ากับราคาที่มันไม่แพง อย่าทำแบบลุ่มๆดอนๆ พอทำลุ่มๆดอนๆ ชีวิตมันก็ลุ่มๆดอนๆ ตามผืนนา ก็ต้องทำให้เรียบ การที่หล่อน้ำ คลุมน้ำ ระดับน้ำได้ หัวแปลง ท้ายแปลง มันจะทำให้หญ้าเกิดขึ้นได้น้อย ไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นเลย แต่จะเกิดขึ้นได้น้อยกว่าปกติทั่วไปอย่างแน่นอน แล้วก็บางคนถ้าย้อนกลับไปตอนเริ่มแรก ก่อนที่จะเอารถเกี่ยวลงมาเกี่ยว เขาจะให้รถเกี่ยวไปล้างทำความสะอาดรถก่อนลงเกี่ยวเพราะว่าเดี๋ยวจะไปเอาข้าวแดงข้าวดีดหญ้าจากแปลงอื่นมาลงนาเรา นี่คือเอาแบบต้นน้ำเลย ต้นเหตุเลยก็รถเกี่ยว แล้วก็การปล่อยน้ำเข้านาบางคนใช้ มุ้งไนลอน หรือ ตะแกงไนลอน เอามาอุดท่อระบายน้ำ เพราะว่าในคูก็มีเมล็ดหญ้า เมล็ดข้าวแดง ข้าวดีดเข้านา ก็เป็นอีก 2 สเต็ปเขาเรียกว่าพรีออเดอร์ หรือเตรียมการก่อนที่จะทำนา แล้วก็มาล่อให้มันงอกแล้วก็ปล่อยน้ำให้ ทำแปลงนาให้ราบเสมอกัน นี่คือเทคนิคในการที่จะลดปริมาณหญ้าในแปลงนา คือแปลงต้องราบ เรียบ เสมอกัน บนคันนาเราจะใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วยเข้มข้นฉีด ฉีดไม่ต้องเจือจางเลยนะครับ เราฉีดเข้มข้นเลยบนหัวคันนา ความเป็นกรดของจุลินทรีย์หน่อกล้วย มันจะช่วยความต้นหญ้าที่เจริญเติบโตงอก มันจะไม่โต หรือบางคนอาจจะใช้เป็นถุงพลาสติกทึบ หรือแผ่นอะไรก็ได้วางไว้บนคันนาแต่มันอาจจะยาวเกินไปหน่อย เปลืองงบประมาณก็ใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วยก็ได้ ตรงนี้ก็จะช่วยในเรื่องของการที่หญ้าบนคันนาไม่รก และในทุกช่วงที่เราเดินตรวจนา ชาวนาต้องขยันถือจอบถือเสียม ไป 1 อัน แบกใส่บ่าแล้วก็เวลาเดินไปก็สับช่วยไปอีกทาง จะทำให้คันนาเราโล่งเตียน อยู่เสมอ เพื่อนๆพี่ๆลุง ป้า น้า อาที่ลงแปลงนา เวลาลงนาปุ๊บก็ ถือเหรียญ ถือเคียว ถือจอบ ลงไปและก็เดินไล่สับลงไป เรื่องนี้จะเป็นการบริหารจัดการหญ้าโดยที่ไม่ต้องใช้ยาคุม ใช้ยาฆ่าหญ้าเลย ไม่ต้องใช้ยาคุมด้วย แต่ถามว่ามีหญ้าไหม ถ้าทำตั้งแต่เอาน้ำเข้าท่อ ระบายน้ำก็ใช้มุ้งไนลอนกรอง รถเกี่ยวจะลงเกี่ยวกันข้าวแดงข้าวดีดก็ให้เขาทำความสะอาดรถเกี่ยว ถ้าทำได้ เกี่ยวเสร็จกระจายฟางให้ราบ ปล่อยน้ำให้ขลุกขลิกกระตุ้นให้มันงอก จะกระตุ้นด้วยน้ำเปล่าๆก็ได้ หรือจะกระตุ้นด้วยฮอร์โมนไข่ ซิลโคเทรซ ไคโตซาน MT ก็ได้ คือด้วยอาหารเสริม ฮอร์โมน พองอกปุ๊บ เราย่ำ ถ้าย่ำไม่อยากจะมาปล่อยหน้าท่ออีกรอบก็รถขุบย่ำ ก็เอาจุลินทรีย์ขี้ควาย ใส่ถัง กล่องน้ำ หรือถังหยดตามรถขุบ ไปทั่วนา วัตถุประสงค์คือเราจะย่อยตอซังฟางข้าวด้วย แล้วก็ช่วยในเรื่องของการทำลายเมล็ดข้าวแดง ข้าวดีดบางส่วนย่อยมันนี่คือสเต็ป อันที่ 3 ก็คือแปลงนาต้องราบเรียบ ใช้รถแทร๊ค กระดานลูบเทือกที่ต้องประณีต ต้องทำเทือกให้ราบเรียบเสมอกัน หัว กลาง ท้ายนา อันที่ 3 เวลาช่วงข้าวแตกกอ ข้าวอะไรมันมีหญ้าขึ้น เอาสมาชิกในครอบครัวลงไปก็ดูเอามือคลำ ต้นข้าวกับหญ้า จะมีความแตกต่างกัน หญ้าคอมมิวนิส หญ้าตีนนก อะไรต่างๆเหล่านี้จะคล้ายข้าวแต่ดูและสังเกตใกล้ๆก็จะไม่เหมือนกัน คอมมิวนิสบางทีจะสูงกว่า ใบใหญ่กว่า กินปุ๋ยเก่ง ใบจะเขียวเข้มกว่า เราก็เอามือดึงเข้าไปชอนกลางต้น ก็จะได้งัดรากดึงขึ้นมา ทำไปหลายๆต้น มัน 5 ไร่ มือเจ็บ ใช้มีดเล็กตัดโคน หรือบางคนใช้เคียวเกี่ยว มันก็โตไม่ทัน มันโตทันก็เกี่ยวใหม่ แต่ถ้าดายหญ้าที่ดีต้องดายที่โคนที่ราก ทำไปวันละนิดละหน่อยรับรองว่าทำได้จริงยันเก็บเกี่ยว ไม่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตข้าวล่าช้าหรืออะไรอย่างแน่นอน ก็อยากจะฝากให้เพื่อนพ้องน้องพี่ลองไปทำกัน
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปอลดสารพิษ www.thaigreenagro.com