แก้ปัญหาหนอนเจาะดอกมะลิกลายเป็นสีม่วง

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของการปลูกมะลิ แล้วผู้ที่ประสบพบเจอเกี่ยวกับเรื่องของดอกถูกทำลายด้วยกลุ่มของพวกแม่ผีเสื้อกลางคืนหรือหนอน ทำให้ผลผลิตและก็ราคานั้นตกต่ำ ก็เดี๋ยวมาพูดคุยกันว่าเป็นอย่างไรมาที่เรื่องของมะลิ มะลิถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจในประเทศเราที่จัดได้ว่าคนทำเกษตรรวยเงียบกันพอสมควร คนบางคนก็มองว่าปลูกเพียงคนละเล็กละน้อย คงจะไม่ได้เงินอะไรมากแต่หารู้ไหมว่า บางปีดอกมะลิก็มีรายได้กิโลละเป็นพันบาท โดยเฉพาะช่วงไหนที่อากาศหนาวมากๆ ดอกมะลิเขาจะติดดอก ออกผลน้อย เมื่อติดดอกออกผลน้อยปีนั้นก็มะลิจะแพง เมื่อมะลิแพงก็สร้างรายหลายแสนหรือบางรายเป็นล้านๆบาท ส่วนใหญ่พื้นที่เพาะปลูกไม่ว่าจะเป็น นครปฐม อ่างทอง กำแพงเพชร พิษณุโลก นครราชสีมา หรือประจวบ ส่วนใหญ่ก็จะปลูกใกล้กับเมืองใหญ่ๆ เพราะว่าการขนส่ง การเก็บรักษาจะค่อนข้างยากนิดหนึ่ง ต้องส่งเร็ว ระบบโลจิสติกต้องมีความแม่นยำ ราคาที่ต่ำสุดในบางปีก็ลงมา 200-300 บาท เฉลี่ยแล้วก็ขายได้อยู่ประมาณ 500-700 และก็ขยับไปถึง 1,000 บาท ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการที่จะใช้มากน้อยในแต่ละปี ที่ขายดีมากๆก็จะเป็นช่วงตรุษจีนกับวันแม่ คือเขาก็จะซื้อเป็นพวงมาลัย มะลิปลูกไร่หนึ่งได้ประมาณ 5-6 พันต้น ถ้าปลูกระยะ 50 เซนติเมตร x 50 เซนติเมตร การขุดหลุมใหญ่ๆหน่อยก็ดี การขุดหลุมใหญ่ก็ทำให้มีพื้นที่ในการหากินอะไรต่างๆได้ง่าย แม้แต่คนที่รับจ้างเก็บก็ได้ถึงกิโลกรัมละ 100 บาท ถือว่าถ้าวันหนึ่งเก็บได้ 10 กิโลกรัม ก็มีรายได้เป็นพัน อาจจะร่วมเรื่องการถอนหญ้าใส่ปุ๋ยไปด้วย อาจจะเป็นพี่น้อง เครือญาติที่เข้ามาช่วยดูแลเก็บมะลิ ที่บอกตรงนี้ก็พยายามให้เพื่อนๆเห็นภาพอีกช่องทางหนึ่งในสภาวะเศรษฐกิจที่มันย่ำแย่ การปลูกมะลิ ถ้าร้อยได้อีกก็สร้างมูลค่าเพิ่ม ส่วนใหญ่ก็จะส่งไปที่ปากคลองตลาด บางคนทำมาเป็น 10-20 ปี ทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษเราเคยไปบรรยายให้กับผู้ปลูกมะลิที่จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าสร้างรายได้ค่อนข้างดี สุพรรณบุรีในบางอำเภอก็ปลูก แถวทางอำเภอศรีประจันต์ก็มีปลูกมะลิ ตำบลดอนปรู ก็ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่รวยเงียบ ราคาแพง ถ้าทำดีๆ ก็ลองหาตลาดก่อน อย่าไปปลูกก่อนและหาตลาดทีหลังเดี๋ยวจะเจ็บแล้วไม่จบ เจ็บนาน ทีนี้ก็มาคุยกันถึงว่าคนที่ปลูกไปแล้วผู้ปลูกรอบๆกรุงเทพเราก็เยอะ ปลูกไปแล้วมีปัญหาเรื่องดอกมันเป็นสีน้ำหมาก ก่อนจะเป็นสีน้ำหมากก็จะมีลักษณะเป็นสีชมพู ออกม่วง แล้วก็กลายเป็นสีม่วงแล้วก็แห้งเป็นสีน้ำตาลอันนี้ก็ต้องบอกไว้เลยว่าอันนี้แหละครับปัญหาเรื่องของหนอนเจาะดอกมะลิเข้ารบกวนและทำลายทำให้ดอกตูม ดอกเล็ก ดอกบาน มีปัญหาทั้งหมด ก็จะหลุด ร่วง หล่น ทำให้ผลผลิตโดยรวมของเราลดลง หนอนก็จะมาจากกลุ่มของผีเสื้อกลางคืนหรือแม่ผีเสื้อกลางคืน พวกนี้ก็จะบินเข้ามาผสมพันธุ์แล้วก็วางไข่ ปกตืแล้วก็จะเข้ามาในช่วงหน้าฝน ในช่วงหน้าฝนก็จะมีการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ลองกอง มังคุด หญ้าในแปลงนา หญ้าข้างทาง ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีเขียวชอุ่ม ดอกมะลิหรือต้นมะลิก็เช่นเดียวกันฝนที่นำพากรดไนติคแอซิดและกลายเป็นไนเตรท ไนโตรเจน เขาก็จะได้รับสารอาหารกินอย่างอิ่ม อวบ อ้วน ก็จะเป็นลักษณะหนอนของแม่ผีเสื้อกลางคืนมีลักษณะตัวเขียว หัวดำ พวกนี้กินตั้งแต่ใบอ่อน ถ้ามะลิยังไม่มีดอก เขาก็จะกินใบด้วยกินใบเสร็จมีดอกตูมๆ ดอกเล็กๆ พวกนี้ก็จะเจาะเข้าไปในรังไข่ กัดกินเกสรของดอกมะลิแล้วก็จะมีขุยออกมาข้างๆดอกก็ลองสังเกตดู การฉีดปุ๋ยพ่นยาฆ่าแมลงสารพิษ บางทีก็ไม่ตายคือเขาหลบซ่อนอยู่ในตัวดอกของเขา ทำให้มีปัญหาทุกปี มีปัญหาทุกปีที่เกษตรกรที่ทำอาชีพปลูกมะลิประสบพบเจอ การดูแลแก้ไขปัญหาถ้าเรารู้ว่าแม่ผีเสื้อกลางคืนเขาชอบรสที่หอมหวานของยอดอ่อน ดอกตูมก็ต้องทำการเปลี่ยนแปลงสี รูป รส กลิ่น ของชมรมเกษตรปลอดสารพิษนี่ก็จะเป็นที่รู้กันว่าการใช้พวกความขมจากฟ้าทลายโจร เดี๋ยวนี้ซื้อฟ้าทลายโจรก็มีราคาแพง เพราะต้องแย่งกันจำหน่ายกับพวกที่เอาไปใช้ในการรักษาโควิด ทำให้ฟ้าทลายโจรราคาสูงขึ้นมากทีเดียว และก็การใช้ขมิ้นชันเปลี่ยนให้มันเป็นออกสีเหลือง การใช้กลิ่นตะไคร้หอม ที่เป็นพืชไล่ยุง ไล่แมลงอยู่แล้ว กานพลูทำให้เขาเผ็ด ตัวนี้อาจจะไม่ใช่การกำจัดหนอนโดยตรง แต่เป็นการป้องกัน คือแม่ผีเสื้อกลางคืนบินเข้ามาแล้วมาเจอกลิ่นที่มันผิดเพี้ยนคิดว่าตรงนี้ไม่ใช่พืชที่มันจะมาแพร่กระจายขยายพันธุ์ มาฮันนีมูล มาแต่งงาน และก็มาวางไข่ มันมา 100% หลอกมันได้สัก 50-60% ก็อย่างดี ดีมากเลยครับ ทำไมต้องบอกว่าหลอก 60-70% การทำเกษตรมันไม่มีอะไรที่ 100% ต่อให้ท่านใช้ยาเคมีสารพิษที่แรงแค่ไหนก็ต้องเจอหนอน แต่การใช้เคมีหรือสารพิษนี่ก็คือจะไม่ค่อยเน้นการป้องกัน เพื่อนๆพี่น้องเกษตรกรที่เคยได้พูดคุย ได้พบปะ จะรออย่างเดียวเจอหนอนเมื่อไหร่ก็สารพิษฉีดโหมกระหน่ำฉ่ำปียกทั้งคนฉีดและก็ต้นไม้ ฉีดให้เปียกยังไงก็ติดบนต้นไม้ 30% อีก 60-70% ก็เปียกไหลชโลมลงไปสู่พื้นดินแผ่นน้ำ ลงไปสู่โคนต้น ฝนตกเจอดินชะเอาดินที่มีสารพิษก็ลงไปสู่แหล่งน้ำ สารพิษนี่ลงไปไหนก็สิ่งมีชีวิตก็ตายที่นั่น ทำให้ดินเสื่อมดินตายก็ต้องเปลืองปุ๋ยเคมีเติมเข้าไปเพราะว่าไส้เดือน จุลินทรีย์ แมลงในดินต่างๆที่คอยพัฒนาอินทรียวัตถุ อะไรต่างๆให้เป็นเศษเล็ก เศษน้อย ย่อยจนเล็กเป็นสารอาหารให้พืชมันก็ไม่มีตัวย่อยก็เหมือนเอาต้นไม้ ต้นมะลิไปปักในทะเลทราย ไม่มีอาหาร อันนี้เพียงยกตัวอย่างให้เห็นว่าถ้าเราใช้สารพิษและตั้งหลักที่จะฉีดตอนเจอหนอนอย่างเดียวก็ต้องใช้เงินเยอะ บางทีก็เจอปัญหาดื้อยา เจอปัญหาดื้อยาก็ฉีดไม่ตายก็ต้องเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆ ใครที่เป็นเซียนเคมีลองไปคุยดูได้เลยว่าส่วนใหญ่ก็ต้องเปลี่ยนยี่ห้อและใช้บางทีก็ไม่ได้ผล เมื่อไม่ได้ผลก็เพิ่มแถมอัดให้เยอะเพราะว่าเสียดายผลผลิต ไม่งั้นอุตส่าห์ปลูกมาแทบเป็นแทบตายแล้วผลสุดท้ายคือไม่ได้เงินใช้ เมื่อไม่ได้เงินใช้ก็เหนื่อย เพราะฉะนั้น การเอาพวกผงสมุนไพร พวกขมิ้นชัน ไพร ฟ้าทลายโจร ตะไคร้หอม กานพลู ฉีดไปผงของพวกนี้มันจะไปสะสมหยดย้อยเคลือบกิ่ง ก้าน ใบ ตกค้าง พอช่วงสายๆหน่อยอากาศเริ่มร้อนแสงแดด ผงที่มันละเอียดมากๆประมาณ 100 เมท เจอแสงแดดสายขึ้นไปทางเที่ยง หรือบ่าย ทำให้มีน้ำมันหอมระเหย ส่งกลิ่นละมุน กลิ่นละมุนที่อาจจะหอมสำหรับคนที่ชอบสมุนไพรแต่เหม็นสำหรับแมลงศัตรูพืชก็จะลด เพื่อนๆที่มีวิสาหกิจชุมชน ที่เขาทำสมุนไพรพวกลูกประคบขายก็ไปขอแบ่งซื้อจากลุง ป้า น้า อา ที่เป็นแม่บ้านเอามาใช้ได้ ก็เอามาฉีดพ่นให้เปลี่ยนแปลง รูป รส กลิ่น ก็ลองใช้ดู เพราะว่าหนอนเจาะดอกมะลินี่มันเข้าไปในดอกการใช้วิธีการรอให้หนอนมีบางทีนอนก็ไม่ตาย ไม่ตายเพราะดื้อยาส่วนหนึ่ง ไม่ตายเพราะฉีดไม่โดนตัว เพราะเขาอยู่ในดอก เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะหลอกล่อให้มันไปที่อื่น ไม่เข้ามาอยู่ในสวนมะลิเราก็เปลี่ยนแปลงพวกกลิ่น และก็การทำให้ต้นมะลิแข็งแรงจากหินภูเขาไฟ ลองไปดูเขาใช้กันยังไง แต่ของเราจะใช้วิธีการกำจัดหนอนด้วยจุลินทรีย์ที่ชื่อว่าบาซิลลัสทูริงเยนซิส หรือไบโอแทค ไบโอแทคตัวนี้มีเชื้อสูงมาก จดทะเบียนได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร มีเชื้อ  ถือว่ามีเชื้อที่สูง เราเคยทดสอบในแปลงสาธิต แปลงจดทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร เอามาฉีดที่ต้นพุทธหน้าสำนักงานบางเขนกรุงเทพ หนอนที่มันกินต้นพุทธที่มันคล้ายๆกับหนอนแก้วที่กัดกินใบมะนาวตัวเท่านิ้วก้อยนิ้วโป้งก็มี ความเข้มข้นของเขาใช้แค่ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดไป 2 ชม เวลาหนอนมันได้รับเชื้อเข้าไป ผลึกคริสตัลที่เป็นรูปสี่เหลื่อมข้าวหลาม เปียกปูน พวกสปอร์มันเข้าไปในลำไส้ ระบบอวัยวะภายในของหนอน และแตกตัวเป็นด่าง สร้างพวกท็อกซิน พิษ ทำให้ระบบอวัยวะล้มเหลว หนอนพวกนี้หยุดนิ่ง ไม่สบาย หยุดทำลาย หยุดกิน ภายในประมาณ 2 ชั่วโมง รุ่งเช้ามาก็ห้อยหัวตายเป็นจำนวนมาก ผู้ที่ปลูกมะลิก็สามารถใช้ไบโอแทค เพียงแค่ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ต่อไปเราจะมีตัวกำจัดหนอนที่เก่งอีกตัวคือ พาซิโรไมซิสไรซินัส ตัวนี้ชื่อการค้าชื่อนีมาเคียว อันนี้ก็ได้รับการอนุมัติ จดทะเบียนในรอบหลาย 10 ปี ตัวนี้ได้ทั้งรากปม ไส้เดือนฝอย และก็หนอนแมลงที่เก่งกว่าพวกบิวเวอร์เรีย และเมธาไรเซียม แต่อย่าไปเข้าใจผิดว่ามันเก่งขนาดนั้น คืออาจจะต่างคนต่างทำหน้าที่ ตัวนี้ก็จะมาช่วยเพื่อนๆพี่น้องเกาตรกรที่ปลูกมะลิได้ดี แต่ทีนี้หนอนที่มาเจาะข้างใน เราเคยใช้วิธีการหมักขยายด้วยไข่ไก่กับน้ำมะพร้าวอ่อนสูตรนี้จะช่วยดึงดูหนอน กลิ่นคาวของไข่กับมะพร้าว เขาจะช่วยดึงดูดหนอนออกมาเลียกินเชื้อบีทีได้มาก อยากให้เพื่อนๆที่ปลูกมะลิลองไปทำดู เอาน้ำสะอาดใส่ถังภาชนะที่ครอบคลุมน้ำได้ 20 ลิตร อาจจะถัง 50 ลิตร 100 ลิตรก็ได้แต่อาจจะเติมไปแค่ 20 ลิตร ใส่ไข่ไก่ไป 5 ฟอง ไม่ต้องเอาเปลือกเอาแค่ไข่ขาวกับไข่แดงกวน ปั่น ตี หรือเจียว ไม่ต้องใส่หอมหรือกระเทียมเอาแค่ไข่ขาว แล้วก็ใส่น้ำมันพืช 5 ช้อนแกง เพื่อลดฟองและก็เป็นตัวช่วยจับใบอีกทางหนึ่งแล้วก็ใส่ตัวหินแร่ภูเขาไฟ สเม็คไทต์ไปสัก 5 ช้อนแกง สเม็คไทต์เขาจะมีค่าความสามารถในการจับก๊าซไข่เน่าไม่ให้ไข่มันเน่าแล้วส่งกลิ่นเหม็น เวลามีก๊าซไข่เน่า ก๊าซแอมโมเนีย ไนไตรท์และก็มีเทนเยอะๆ ทำให้ออกซิเจนมันน้อย ออกซิเจนน้อยทำให้จุลินทรีย์หรือแบคทีเรียที่กินหนอนที่ชื่อว่าบาซิลลัสทูริงเยนซิส มันโตช้าหรือไม่โต ก็ไข่ไก่ 5 ฟอง น้ำมันพืช 5 ช้อนแกง สเม็คไทต์ 5 ช้อนแกง แล้วก็ใส่เครื่องอัดอากาศอ๊อกซิเจนแบบตู้ปลา 4 หัว 6 หัว ก็บูมฟองให้มัน ออกซิเจนให้มันมากและก็ใส่หัวเชื้อไบโอแทค จากปกติใช้ 50 กรัม ฉีดพ่นทันทีสำหรับคนที่ทำเล็กๆน้อยๆ ก็ขี้เกียจหมัก แต่ถ้าคนที่ต้องการลดต้นทุนก็หมักด้วยสูตรไข่ไก่ ใส่เชื้อไปสัก 5 ช้อนชา จาก 50 กรัม เหลือ 5 ช้อนชา หรือบางคนใส่ 1 ช้อนชาก็ได้เอาแบบประหยัด ก็ลดต้นทุนได้ อัดอากาศเลี้ยงเชื้อไป 1-2 วัน ก็คือประมาณ 24-48 ชั่วโมง โดยประมาณฉีดในช่วงเย็นแดดอ่อน ใส่มะพร้าวอ่อนด้วยถ้ามี ใส่น้ำมะพร้าวอ่อน ความจริงแล้วสูตรไข่ไก่อย่างเดียวก็ได้ แต่เราเคยไปส่งเสริมแถวนครปฐม นครปฐมปลูกพวกหน่อไม้ฝรั่ง พวกกระเจี๊ยบเขียว เอาน้ำมะพร้าวอ่อนผสมไปด้วยปรากฏว่าการหมักตัวนี้ทำให้กลิ่นเฉพาะ ให้หนอนมันสนใจออกมาดูดเลียกิน หนอนตายมากกว่าปกติ วิธีการนี้ยังช่วยแก้ปัญหาพวกหนอนชอนใบ ชอนกิ่ง ชอนเปลือกในลองกอง มังคุด ทุเรียน ได้ดีด้วย ก็ลองเอาไปปรับใช้กันดู ก็ทำให้ปัญหาเรื่องหนอนเจาะดอกมะลิ ต่อไปก็มีพาซิโรไมซิสเข้ามาช่วยอีกตัวหนึ่ง แต่การทำให้ต้นแข็งแรง ดิน pH เหมาะสม อาหารสมบูรณ์ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ อันนั้นค่อยคุยกัน แต่เรากำลังพูดถึงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอยู่ อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องเอามาบอกกล่าวเล่าสู่เพื่อนๆที่ปลูกมะลิ ส่วนมะลิในช่วงหน้าหนาว ที่ดอกไม่ค่อยดี ดอกน้อย เดี๋ยวว่างๆเราคงมาคุยกันว่าจะแก้ยังไงทำให้มะลิออกดอกในช่วงหน้าหนาวได้

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปอลดสารพิษ www.thaigreenagro.com