คำอธิบาย
คุณสมบัติ
- ช่วยเพิ่มซิลิก้าในดินให้อยู่ในรูปที่พืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งซิลิก้าถ้าพืชดูดขึ้นไปใช้ จะตกผลึกที่เซลล์ในส่วนต่าง ๆ ของต้นพืชจะทำให้เซลล์พืชแข็ง จึงทำให้พืชแข็งแกร่ง ลดการล้มของพืช เช่น ข้าว อ้อย เป็นต้น ทำให้ทนต่อการเข้าทำลายของโรค แมลง ไร รา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงและสารกำจัดโรคพืชต่าง ๆ ในผักจะทำให้ผักกรอบและเก็บไว้ได้นานกว่าผักที่ได้รับซิลิก้าน้อย
- ทำให้ปุ๋ยละลายเร็วเป็นปุ๋ยละลายช้า ลดการสูญเสียปุ๋ยเมื่อถูกน้ำหรือฝนชะล้าง ลดการเฝือใบของพืช พืชไม่ชะงักการเจริญเติบโต ยืดระยะเวลาการให้ปุ๋ยครั้งต่อไป ทำให้ประหยัดต้นทุนการซื้อปุ๋ย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์
- ทำลายสารพิษและตรึงสารพิษไม่ให้เป็นอันตรายกับพืช ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเราฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าเพื่อหวังหญ้าตายและไม่กลับมาขึ้นในแปลงเพาะปลูกอีกอย่างที่เขาโฆษณาว่าตายถอนรากถอนโคน ซึ่งยาฆ่าหญ้าที่เราฉีดพ่นและฝังตัวลงดินกว่าจะสลายตัวหมดก็ใช้ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเราไม่สามารถปลูกพืชอื่นได้เลย ถ้าปลูกได้พืชก็ไม่งามเท่าที่ควรจะเป็นเพราะยังติดฤทธิ์ของยาฆ่าหญ้าอยู่ สำหรับในพืชอาจจะไม่ค่อยเห็ดชัดเจนนัก แต่สำหรับในการเลี้ยงสัตว์น้ำนั้นเห็ดได้ชัดเจนในช่วงการเตรียมน้ำก่อนปล่อยสัตว์ พบว่าการทำสีน้ำหรือทำแพลงค์ตอนพืชและแพลงค์ตอนสัตว์ไม่เกิด เพราะมียาฆ่าหญ้าผสมติดมากับน้ำที่เรากำลังจะเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
- ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ป้องกันดินแห้งและช่วยให้ดินอุ้มน้ำดีขึ้น ดินร่วนซุย และจะค่อย ๆ ทำให้ดินดีขึ้นตามลำดับ
วิธีการใช้
- ใช้เดี่ยว ๆ หว่านกระจายทั่วทรงพุ่มหรือหว่านทั้งแปลง อัตราการใช้ 40-80 กิโลกรัม/ไร่
- ใช้ผสมปุ๋ยเคมี ในอัตรา ภูไมท์ 1 ส่วน ต่อปุ๋ยเคมี 5 ส่วน
- ใช้ผสมปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ในอัตรา ภูไมท์ 1 ส่วน ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 10 ส่วน
- ในไม้กระถางใช้กระถางละ 1-2 ช้อนชา
ผลจากการที่พืชได้รับซิลิก้าเพียงพอ
- ลดการล้มของพืช เช่น ข้าว อ้อย ลดการเฝือใบ
- ลดการสูญเสียปุ๋ยจากการชะล้างของน้ำ
- ผนังเซลล์พืชแข็งแกร่งด้วยซิลิก้า ลดการทำลายของแมลง ไร รา และโรคพืชต่าง ๆ
- เก็บผลผลิตได้นานขึ้น ผักแข็งกรอบ อร่อยขึ้น และเก็บไว้ได้นานขึ้น