สวัสดีครับพีๆน้องๆชาวสมาชิกของชมรมเกษตรปลอดสารพิษทุกๆท่าน บทความวันนี้จะมาแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพการฉีดยา-ฮอร์โมนให้กับพืชต่างๆให้ได้ผลอย่างดีเยี่ยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ปุ๋ย-ยาเคมีหรือชีวภาพต่างๆออกมาวางจำหน่ายอาทิในรูปแบบผง แบบเม็ด แบบน้ำ ออกมาจำแนกแจกจ่ายให้พี่ๆน้องๆได้จับจ่ายซื้อหากันอย่างเต็มที่ เช่น ยากำจัดวัชพืช หลายต่อหลายบริษัทก็สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูงออกมาเพื่อให้พี่ๆน้องๆนั้นประสบกับความสำเร็จในการกำจัดวัชพืชหรือหญ้าต่างๆให้หายไปจากแปลงหรือสวน หรือจะเป็นฮอร์โมนพืชต่างๆที่จะมองมุมไหนก็เป็นธาตุอาหารพืชที่พืชจำเป็นต้องใช้เพื่อนำธาตุอาหารมาบำรุงต้น ใบและผลผลิตให้กับพี่ๆน้องๆได้ซื้อหากันอีกเช่นกัน บ้างก็เปลี่ยนแปลงชื่อการค้าให้ดูน่าซื้อหาแต่ภายในก็ยังเป็นธาตุอาหารพืชเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นพี่ๆน้องๆเกษตรกรทุกท่านจะต้องใช้วิจารณญาณให้ถี่ถ้วนและรอบคอบในการเลือกซื้อสินค้าแต่ละชนิดเพราะถ้าเกษตรกรซื้อปุ๋ย-ยามาให้มีดียังไงแต่ถ้าเกษตรกรลืมสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปยาฮอร์โมนของท่านนั้นก็ไม่ต่างจากน้ำเปล่าเลยครับ
การฉีดพ่นปุ๋ย-ยาฮอร์โมนแต่ละชนิดนั้นมีเกษตรกรหลายต่อหลายท่านที่บ่นว่ายาที่ใช้ฉีดพ่นนั้นเมื่อนำมาฉีดพ่นแล้วไม่ประสบความสำเร็จดั่งใจหวัง ฉีดยาฆ่าหญ้า หญ้าก็ไม่ตาย ฉีดยาบำรุงให้เขียวและโตไวก็ไม่เขียวและไม่โตไว ฉีดยากำจัดหนอนเพลี้ยและแมลงศัตรูพืชก็ยังเห็นหนอนเพลี้ยและแมลงศัตรูพืชมารบกวนทำลายพืชอยู่เหมือนเดิม ฉีดยากำจัดเชื้อราพืชก็ยังไม่หายแถมระบาดหนักอีก โดยปัญหาดังกล่าวข้างต้นนี้เกษตรกรทุกๆท่านจะต้องหันกลับมามองดูตัวท่านเองว่าท่านทำผิดวิธีหรือไม่หรือเพราะอะไรถึงไม่ได้ผล โดยปัญหาหลักๆเลยก็คือเรื่องของน้ำที่ใช้ผสมปุ๋ย-ยาฮอร์โมนนั่นเอง เพราะน้ำที่เกษตรกรนำมาผสมยาต่างๆนั้นเช่นน้ำตามลำคลอง น้ำจากท่อประปา เป็นต้น โดยน้ำเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นด่างหรือมีค่า PH มากกว่า 7 นั่นเอง เมื่อน้ำมีค่า PH มากกว่า 7 แต่ปุ๋ย-ยาฮอร์โมนนั้นส่วนใหญ่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์จะมีค่าเป็นกรดหรือค่า PH ต่ำกว่า 7 นั่นเอง เมื่อนำน้ำมาผสมกับยาค่า PH ของน้ำจะไปล้างฤทธิ์ของปุ๋ย-ยาฮอร์โมนต่างๆให้มีค่าเท่ากับน้ำเปล่าเมื่อเกษตรกรนำไปฉีดก็เปรียบว่านำน้ำเปล่าไปฉีดพ่นจึงทำให้เกษตรกรนั้นฉีดพ่นไปและไม่ได้ผล การแก้ไขในการจะฉีดพ่นปุ๋ย-ยาฮอร์โมนต่างๆก็คือการวัดค่า PH ของน้ำก่อนถ้าน้ำมีค่า PH สูงกว่า7 ก็จะต้องใช้น้ำมะนาว น้ำส้มสายชู ฯลฯ ผสมลงไปก่อน แต่ในฤดูที่มะนาวราคาแพงก็ไม่ควรใช้ ทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษของเรานั้นก็มีผลิตภัณฑ์ชื่อว่า แอดจัสท์ ที่สามารถช่วยปรับสภาพน้ำได้อย่างดีแถมยังเป็นสารจับใบ เคลือบผิวใบ แต่ถ้าน้ำมีสภาพต่ำกว่า 7 ลงไปจะต้องใช้น้ำขี้เถ้ามาผสมเพื่อจะดึงค่า PH ให้อยู่ที่กรดอ่อนๆ โดยค่า PH ของน้ำที่เหมาะกับการฉีด
พ่นปุ๋ย-ยาฮอร์โมนนั้นจะต้องอยู่ที่ 6.5 ซึ่งเป็นกรดอ่อนๆ ยังไงเกษตรกรทุกๆท่านต้องลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูแล้วท่านจะพบว่าสิ่งใกล้ตัวนั้นจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แล้วท่านก็จะไม่ต้องไปใช้ยาต่างๆที่มีราคาแพงเลยครับประหยัดต้นทุนได้อีกทางหนึ่งเลยครับ